หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้เผย คิม จอง-อึน สั่งล็อกดาวน์กรุงเปียงยางเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 และประหารชีวิตประชาชนแล้ว 2 คน

สำนักข่าว ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเกาหลีใต้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 27 พ.ย. 2563 หลังจากร่วมประชุมกับสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ (NIS) ว่า คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กำลังใช้มาตรการรุนแรงเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการล็อกดาวน์เมืองหลวงกรุงเปียงยาง และประหารผู้ละเมิดมาตรการควบคุมโควิดไปแล้ว 2 ราย

นายฮา แท-กยอง หนึ่งใน ส.ส.ที่ร่วมประชุมเผยว่า นายคิมโกรธมากในเรื่องการระบาดกับผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ และสั่งใช้มาตรการรุนแรงดังกล่าว โดยเพิ่งสั่งล็อกดาวน์กรุงเปียงยางและจังหวัดชากัง ทางเหนือของประเทศไปเมื่อไม่นานมานี้ และเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่อื่นๆ เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

เกาหลีเหนือยังประหารชีวิตบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศคนหนึ่งในกรุงเปียงยางเมื่อเดือนก่อน โดยระบุว่าคนผู้นี้ต้องรับผิดชอบที่ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนลดลง และประหารเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสำคัญอีกคนในเดือนสิงหาคม ฐานละเมิดข้อห้ามเรื่องการซื้อสินค้าจากต่างประเทศ

ไม่เพียงเท่านั้น รัฐบาลเปียงยางยังสั่งห้ามออกหาปลาและทำนาเกลือในทะเล เพื่อป้องกันไม่ให้นำทะเลปนเปื้อนไวรัสโคโรนา และพยายามแฮกข้อมูลการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จากบริษัทยาของเกาหลีใต้อย่างน้อย 1 แห่งด้วย แต่ไม่สำเร็จ

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือยืนยันว่า จนถึงตอนนี้พวกเขายังไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้แต่รายเดียว เนื่องจากพวกเขาใช้มาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ซึ่งทำให้พวกเขาต้องปิดพรมแดนกับประเทศจีน คู่ค้ารายใหญ่ที่สุดตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่มาตรการนี้รวมทั้งภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายครั้งในช่วงฤดูร้อน กอปรกับการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ สร้างความเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ

...

นายฮาระบุว่า มูลค่าการค้าระหว่างเกาหลีเหนือกับจีนในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้อยู่ที่ 530 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 25% ของมูลค่าของปีก่อนเท่านั้น ขณะที่ราคาของน้ำตาลและเครื่องปรุงต่างๆ พุ่งสูงขึ้นถึง 4 เท่า.