- ในขณะที่หลายบริษัทยาทยอยประกาศความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ทำให้ประเทศต่างๆ รอคอยอย่างมีความหวังที่จะได้รับวัคซีนมาใช้คลี่คลายวิกฤติโควิด-19 โดยเร็ว
- หลายประเทศในเอเชียติดอันดับต้นๆ ที่จะได้ใช้งานวัคซีนในช่วงต้นปีหน้า แม้ว่าจะได้รับวัคซีนในลอตแรก ในจำนวนที่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการก็ตาม
- นอกจากวัคซีนของบริษัทยายักษ์ใหญ่ ทั้งไฟเซอร์ โมเดอร์นา และแอสตราเซเนกาแล้ว หลายประเทศในเอเชียยังมีการสั่งซื้อวัคซีนสปุตนิก-วี จากรัสเซีย รวมทั้งพัฒนาวัคซีนขึ้นเองอย่างประเทศจีน เป็นต้น
หลังบริษัทยายักษ์ใหญ่ทั้งไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค โมเดอร์นา รวมทั้งแอสตราเซเนกาที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ทยอยประกาศความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ออกมา ทั่วโลกต่างเริ่มจับตารอฟังข่าวดีอย่างมีความหวัง เพื่อเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่จะได้เริ่มใช้งานวัคซีน และประเทศใดบ้างที่จะได้รับวัคซีนมาใช้คลี่คลายวิกฤติโควิด-19 เป็นอันดับต้นๆ วันนี้เราลองไปสำรวจประเทศในแถบเอเชียกันก่อนว่าแต่ละประเทศมีการสั่งซื้อวัคซีนจากที่ใดบ้าง และเมื่อไหร่ที่จะเริ่มได้ใช้งานวัคซีนต้านโควิด-19 เหล่านี้

...
ออสเตรเลีย
ประเทศออสเตรเลียได้สั่งซื้อวัคซีนจำนวน 135 ล้านโดส แบ่งเป็น : 34 ล้านโดสจากบริษัทแอสตราเซเนกา : 40 ล้านโดสจากบริษัทโนวาแว็กซ์ : 10 ล้านโดสจากบริษัทไฟเซอร์ และอีก 51 ล้านโดสจากบริษัท ซีเอสแอล จำกัด โดยคาดว่าจะได้รับวัคซีนจำนวน 3.8 ล้านโดสจากบริษัทแอสตราเซเนกาในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021

จีน
ประเทศจีนไม่ได้ใช้วิธีสั่งซื้อวัคซีนจากบริษัทยาของชาติตะวันตกโดยตรง แต่เป็นพันธมิตรร่วมผลิตวัคซีนกับบริษัทเอกชนหลายแห่ง อย่างวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาที่บรรลุข้อตกลงกับบริษัทเซินเจิ้น คังไถ่ ไบโอโลจิคัล โปรดักส์ พันธมิตรของจีน น่าจะได้รับการรับรองในประเทศจีนในช่วงกลางปี 2021 โดยมีแผนที่จะผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ได้อย่างน้อย 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2020 นี้ด้วย
ส่วนวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ที่ได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัท เซี่ยงไฮ้ โฟซัน ฟาร์มาซูติคัล กรุ๊ป กำลังอยู่ในระหว่างทดลองวัคซีนในเฟส 2 นอกจากนี้ยังมี บริษัท ทิเบต โรดิโอลา ฟาร์มาซูติคัล โฮลดิ้ง ที่นำเข้าวัคซีนสปุตนิก-วี ของรัสเซีย โดยมีแผนที่จะนำวัคซีนมาทดลองในขั้นต้นและขั้นกลางในประเทศจีนด้วย
ขณะเดียวกัน จีนยังมีการรับรองวัคซีนอีกจากอย่างน้อย 3 บริษัท ได้แก่วัคซีนที่พัฒนาโดย ซิโนแว็กซ์ และของบริษัทซิโนฟาร์มที่เป็นของรัฐบาลจีน เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน โดยบริษัทซิโนฟาร์มหวังว่า วัคซีนจากทั้งสองบริษัทจะได้รับการรับรองเพื่อนำไปใช้กับสาธารณชนภายในปีนี้

ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นมีคำสั่งซื้อวัคซีนจากบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค จำนวน 120 ล้านโดส ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และสั่งซื้อวัคซีนจากบริษัทแอสตราเซเนกาอีก 120 ล้านโดส ซึ่งจะมีการส่งวัคซีนในลอตแรกให้ญี่ปุ่นจำนวน 30 ล้านโดสในเดือนมีนาคม 2021 และอีก 250 ล้านโดสจากบริษัทโนวาแว็กซ์
นอกจากนี้ ทางการญี่ปุ่นยังเจรจากับบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และมีข้อตกลงกับบริษัทชิโอโนกิ แอนด์ โค ด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ผู้ผลิตวัคซีนจำเป็นต้องทดสอบวัคซีนในเฟส 1-2 ในญี่ปุ่นเป็นอย่างน้อย ก่อนที่จะได้รับการรับรองให้ใช้งานต่อไป
เกาหลีใต้
เกาหลีใต้คาดว่าจะได้รับวัคซีนโควิด-19 จากบริษัทโคแว็กซ์จำนวน 10 ล้านโดส รวมทั้งวัคซีนจากผู้ผลิตเจ้าอื่นอีก 20 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ โดยทางการเกาหลีใต้ได้ทำข้อตกลงกับบริษัทโคแว็กซ์ที่จะเปิดกว้างให้สามารถเลือกวัคซีนจากผู้ผลิตเจ้าอื่นตามที่ระบุได้ ส่วนระยะเวลาในการจัดซื้อจัดหาและปริมาณของวัคซีนจะขึ้นอยู่กับตารางการผลิตของวัคซีนเหล่านั้น ส่วนการฉีดวัคซีนให้ประชาชนน่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า เพื่อให้ทางการมีเวลาในการประเมินผลข้างเคียงจากการใช้วัคซีนอย่างรอบคอบ
...
อินเดีย
สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย ผู้ผลิตวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา ระบุเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ผลการทดลองในขั้นสุดท้ายกับอาสาสมัครที่ออกมาดี จะทำให้อินเดียสามารถรับรองการใช้งานวัคซีนแบบฉุกเฉินได้ภายในสิ้นปีนี้ ก่อนที่จะได้รับการรับรองความปลอดภัยอย่างเต็มรูปแบบในช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคมปีหน้า โดยคาดหมายว่าวัคซีนที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลน่าจะสามารถเปิดตัวได้เร็วที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ในขณะที่ยังคงทดลองวัคซีนสปุตนิก-วี ในขั้นสุดท้ายอยู่เช่นกัน
ไต้หวัน
ไต้หวันคาดหมายว่าจะได้รับวัคซีนอย่างน้อย 15 ล้านโดสในเบื้องต้น จากทั้งบริษัท โคแว็กซ์ รวมทั้งจากการสั่งซื้อโดยตรงจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนอีกหลายค่าย รวมทั้งจะมีคำสั่งซื้อเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 15 ล้านโดส โดยรัฐบาลไต้หวันหวังว่า จะได้เริ่มใช้วัคซีนกับประชาชนในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า

ฟิลิปปินส์
รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัท แอสตราเซเนกา เพื่อสั่งซื้อวัคซีนอย่างน้อย 20 ล้านโดส ซึ่งคาดว่าวัคซีนจะมาถึงในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า และจะสั่งซื้อวัคซีนรวมทั้งสิ้น 60 ล้านโดส โดยมีการเจรจากับทั้งบริษัทไฟเซอร์รวมทั้งซิโนแว็กซ์ด้วย โดยบริษัทผู้ผลิตวัคซีนสามารถที่จะยื่นขอการรับรองจากประเทศฟิลิปปินส์ได้ แม้ว่าจะไม่มีการทดลองวัคซีนดังกล่าวในฟิลิปปินส์ก็ตาม
...
อินโดนีเซีย
อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในรายชื่อ 92 ประเทศ ที่มีรายได้ต่ำและรายได้ปานกลาง ทำให้อินโดนีเซียมีโอกาสได้เข้าถึงวัคซีนของบริษัทโคแว็กซ์ คิดเป็น 20% ของจำนวนประชากร หรือคิดเป็น 106 ล้าน - 107 ล้านโดส โดยประมาณหากมีการฉีดวัคซีนให้ประชากรคนละ 2 โดส
ปัจจุบันนี้อินโดนีเซียกำลังอยู่ระหว่างทดสอบวัคซีนของบริษัท ซิโนแว็กซ์และกำลังเตรียมที่จะทดสอบวัคซีนครั้งใหญ่กับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เป็นแนวหน้าในการรับมือกับโรค ในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้
เวียดนาม
รัฐบาลเวียดนามระบุว่าวัคซีนจากบริษัทโคแว็กซ์ จะสามารถใช้ได้กับประชากรเพียงแค่ 20% ของประเทศเท่านั้น ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะมีโอกาสทำข้อตกลงเพิ่มเติมเร็วๆ นี้ หากความต้องการโดยภาพรวมเพิ่มสูงขึ้นมาก

บังกลาเทศ
บังกลาเทศมีการเซ็นสัญญาสั่งซื้อวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาจำนวน 30 ล้านโดสจากสถาบันเซรุ่มของอินเดีย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอาวุโสยังระบุว่า บังกลาเทศจะได้รับวัคซีนจาก กาวี องค์กรที่ดำเนินการเกี่ยวกับสาธารณสุขระดับโลกเพื่อช่วยเหลือประเทศยากจนอีก 68 ล้านโดสในราคาทุนด้วย
...
แม้ว่าในช่วงแรกปริมาณวัคซีนอาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของทั่วโลก แต่คาดว่าหากวัคซีนแต่ละค่ายได้รับการรับรองความปลอดภัยทั้งหมดและเดินหน้าผลิตอย่างเต็มกำลัง คาดว่าสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 น่าจะทุเลาลง และทำให้ทั่วโลกสามารถรับมือกับไวรัสมรณะนี้ได้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า.
ผู้เขียน : อาจุมม่าโอปอล
ที่มา : รอยเตอร์ : แชนแนลนิวส์เอเชีย :โคสต์ทัลไดเจสดอทคอม