บริษัทผลิตถุงมือยาง Top Glove (ท็อป โกลฟ) บริษัทผลิตและส่งออกถุงมือยางรายใหญ่สุดของโลก ในประเทศมาเลเซีย จำต้องปิดโรงงานถึง 28 แห่ง จาก 41 แห่งในประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 หลังจากมีพนักงานเกือบ 2,500 คน ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 แล้ว

กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย แถลงเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จนพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในหลายพื้นที่ ซึ่งมีโรงงานผลิตถุงมือยางและหอพักคนงานของบริษัท ท็อป โกลฟ ตั้งอยู่ โดยขณะนี้ได้มีการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้แก่พนักงานบริษัท ท็อป โกลฟ แล้วเกือบ 5,800 ราย ในจำนวนนี้พบว่าติดเชื้อถึง 2,453 ราย

ตามรายงานระบุว่า บริษัท ท็อป โกลฟ มีโรงงานในมาเลเซีย 41 แห่ง ซึ่งคนงานจำนวนมากเป็นคนงานจากประเทศเนปาล และคนงานต่างด้าวเหล่านี้พักในหอพักของโรงงาน โดยนับตั้งแต่เกิดเชื้อโควิด-19 ระบาดใหญ่ทั่วโลก ทำให้บริษัท ท็อป โกลฟ ต้องเร่งผลิตถุงมือยางตามความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากสำหรับป้องกันเชื้อโควิด-19

...

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 รัฐบาลสหรัฐฯได้สั่งแบนถุงมือยางนำเข้าจากสองบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท ท็อป โกลฟ หลังจากมีการร้องเรียนในเรื่องการบังคับใช้แรงงานในโรงงานให้ทำงานอย่างหนัก โดยมีคนงานต่างด้าวหลายคนที่ทำงานกับบริษัท ท็อป โกลฟ เผยกับนักข่าวลอสแอนเจลิส ไทม์ส เกี่ยวกับสภาพการทำงานของพวกตนในโรงงานบริษัท ท็อป โกลฟ อ้างว่า พวกตนต้องทำงานหนักมาถึง 72 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อีกทั้งสภาพความเป็นอยู่ไม่ดี และค่าแรงก็ต่ำ.

ที่มา : BBC