กองทัพอากาศสเปนจัดฉลอง 50 ปี เอฟ-5 บี ฟรีดอมไฟต์เตอร์ เครื่องบินฝึกขับไล่ไอพ่น ที่สร้างนักบินขับไล่มาแล้วมากมาย ด้วยความคุ้มค่า ดูแลรักษาง่าย จึงถูกปรับปรุงยืดอายุจนยังบินได้มาถึงทุกวันนี้
- กองทัพอากาศสเปนใช้ เอฟ-5 บี ฝึกนักบินสำหรับบินเอฟ-35
- เอฟ-5 ของสเปนมีชื่อเรียกอีกชื่อ คือ เอฟ-5บีเอ็ม (F-5BM)
- การฝึกบินกับเอฟ-5 ทอ.สเปน จะสอนคู่กับซิมมูเลเตอร์แบบ VR
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ เมื่อไม่นานมานี้ กองทัพอากาศสเปน (Spanish Air Force) มีการฉลองครบ 50 ปี การประจำการของเครื่องบินฝึกขับไล่ไอพ่นแบบ เอฟ-5 บี ฟรีดอมไฟต์เตอร์ (F-5B Freedom Fighter) โดยตำนานนี้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 60 เพื่อปรับปรุงกระบวนทัศน์ในการรบทางอากาศยุคใหม่ ในการสอนเหล่านักล่าที่หมายถึงนักบินขับไล่ ให้ได้รู้จักทฤษฎีและเทคนิคการรบทางอากาศเบื้องต้น ด้วยเครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูง สามารถใช้งานอาวุธทางอากาศที่เป็นแบบสมัยใหม่ ที่มาเล่าถึงกองทัพอากาศสเปนเพราะไทม์ไลน์การพัฒนากองทัพอากาศ ใกล้เคียงกับกองทัพอากาศไทย ที่ใช้เครื่องบินชนิดเดียวกันจึงน่าสนใจดี สำหรับคนไทยที่รักเครื่องบิน
...
แนวคิดนี้เริ่มขึ้นมาเมื่อปี 1965 กองทัพอากาศสเปนกำลังมองหาเครื่องบิน ที่จะมาทดแทนเครื่องบินขับไล่ไอพ่นแบบ เอฟ-86 เซเบอร์ และเครื่องบินฝึกไอพ่น ที-33 ในเวลาอันสั้น โดยทางกองทัพได้ประกาศทำสัญญาซื้อเครื่องบินจากบริษัทนอร์ธรอป สหรัฐอเมริกา เป็นเครื่องบินแบบ เอฟ-5 เอ ฟรีดอมไฟต์เตอร์ เครื่องบินขับไล่เบาอเนกประสงค์ที่นั่งเดียวความเร็วเหนือเสียง และเอฟ-5 บี เครื่องบินฝึกไอพ่นความเร็วเหนือเสียงแบบ 2 ที่นั่ง จำนวน 70 ลำ โดย 10 ลำแรกเป็นการผลิตประกอบที่โรงงานในสหรัฐฯ แต่อีก 60 ลำทางรัฐบาลสเปนต้องการที่จะนำมาประกอบเองที่โรงงานผลิตเครื่องบินของบริษัทคาซ่า (CASA) อันจะเป็นการยกระดับเทคโนโลยีการผลิตเครื่องบินภายในประเทศให้ก้าวกระโดดสู่ยุคความเร็วเหนือเสียง และยังเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีอากาศยานขั้นสูงอีกด้วย
เล่าย้อนกันสักนิดว่า นอร์ธรอป F-5 ฟรีดอมไฟต์เตอร์ เครื่องบินขับไล่ไอพ่นที่ถูกผลิตขึ้นมาในช่วงทศวรรศที่ 60 โดยสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้เป็นเครื่องบินขับไล่ขนาดเบา มีความเร็วเหนือเสียง สำหรับประเทศพันธมิตรนาโต้ และพันธมิตรนอกนาโต้ ตามความช่วยเหลือทางทหาร หรือขายผ่านโครงการช่วยเหลือทางทหารต่างๆ กับประเทศโลกเสรี ที่หนึ่งในนั้นมีประเทศไทยด้วย แต่ลูกค้ารายแรกที่มีคำสั่งซื้อ คือ ประเทศอิหร่าน
เครื่องบินตระกูล เอฟ-5 ฟรีดอมไฟต์เตอร์ แบ่งออกเป็น 3 รุ่นหลัก คือ เอฟ-5 เอ ฟรีดอมไฟต์เตอร์ เครื่องบินขับไล่เบาอเนกประสงค์ที่นั่งเดียวความเร็วเหนือเสียง เอฟ-5บี เครื่องบินฝึกไอพ่นความเร็วเหนือเสียงแบบ 2 ที่นั่ง และ อาร์เอฟ-5 เอ ฟรีดอมอาย เครื่องบินลาดตระเวนถ่ายภาพทางอากาศความเร็วเหนือเสียง ต่างจากเอฟ-5เอ ตรงที่ส่วนหัวถอดปืนกลอากาศ 20 มม. 2 กระบอกออกไปแล้วติดกล้องถ่ายภาพทางอากาศแทน
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา เครื่องบินที่เป็นสัญลักษณ์นี้มีอายุ 50 ปีในกองบิน 23 ของฐานทัพอากาศ Talavera la Real (Badajoz) โดยมีการแสดงความเคารพให้เกียรติต่อเครื่องบิน และนักบินทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของประวัติการบิน ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่ช่วยให้บรรลุเป้าหมายนี้ ตั้งแต่ที่เข้าประจำการจนถึงวันนี้ เอฟ-5 ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนักบินทุกคน ด้วยการบำรุงรักษาที่ง่าย คุ้มค่าในการใช้งาน
...
จุดเริ่มต้นของฟรีดอมไฟต์เตอร์ในกองทัพอากาศแดนกระทิงดุ เริ่มขึ้นในปี 1968 หลังลงนามสั่งซื้อเครื่องบิน ตัวแทนชุดแรก 18 คน โดยมีนักบิน 6 คนเดินทางไปฝึกบินที่ฐานทัพอากาศวิลเลียม รัฐแอริโซนา เพื่อฝึกบินกับเครื่องบินรุ่นใหม่ ส่วนอีก 12 นายเป็นเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินฝึกการซ่อมบำรุงดูแลรักษาเครื่องบิน จนถึงวันที่ 12 พ.ย. 1970 เครื่องบินเอฟ-5 บี จำนวน 3 ลำแรกก็มาถึงฐานทัพอากาศ Talavera la Real โดยมาจากโรงงานผลิตในเมืองเกตาเฟ่ ประเทศสเปน
เครื่องบิน 14 ลำถูกบรรจุลงฝูง 731 สำหรับโรงเรียนการบิน เป็นฝูงบินฝึก และอีก 13 ลำ ถูกบรรจุลงฝูงบิน 732 เพื่อรักษาความพร้อมรบ โดยทั้งหมดนี้ใช้เวลาเปลี่ยนผ่านไม่นานก็มีความพร้อมสูงสุด และนักบินทุกคนก็เห็นคุณค่าต่อเนื่องนี้ เข้าสู่ช่วงปี 1980 เครื่องบินได้เดินทางไปยังเมืองซาราโกซ่า เพื่อฝึกการรบโดยใช้กระสุนจริง นักบินจะได้โอกาสฝึกการใช้อาวุธโจมตีภาคพื้นดิน โดยในปีนี้เครื่องบินเอฟ- 5 ปี เริ่มได้รับการปรับปรุงระบบนำทางเดินอากาศและระบบสื่อสาร รวมทั้งอุปกรณ์ช่วยในการลงจอด
...
ต่อมาโรงเรียนการบินแห่งนี้ได้เปลี่ยนเป็น กองบินฝึกขับไล่โจมตีที่ 23 ทำให้ฝูงบิน 731 และ 732 เปลี่ยนเป็นฝูงบิน 231 และ 232 และเครื่องบิน เอฟ-5 มีอายุการใช้งานรวมกว่า 75,000 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามกาลเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่ใกล้สิ้นทศวรรษที่ 90 ถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจที่จะหาเครื่องบินที่มีสมรรถนะสูงกว่ามาทดแทน แต่การรักษาจิตวิญญาณเครื่องครูที่ค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวต่ำ บำรุงรักษาง่าย ในแง่ระบบอวิโอนิกส์ของแพลตฟอร์มที่น่าเกรงขามนี้ จึงได้รับการยืดอายุการใช้งานต่อไป โดยถูกนำไปดำเนินการยังโครงการผลิตในเมืองเกตาเฟ่ แต่เปลี่ยนผู้ดำเนินการใหม่เป็น EADS ซึ่งปัจจุบันนี้คือกลุ่มแอร์บัส
...
และแล้วในปี 2003 เครื่องบิน 4 ลำที่ได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนใหม่หลายอย่างทั้งระบบการนำร่อง เพื่อการร่อนลงจอด ระบบการสื่อสารย่านความถี่ V/UHF จอแสดงผลมัลติฟังก์ชั่นในห้องนักบินระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมภารกิจ ระบบนำร่องเดินอากาศ INS/GPS วิทยุ เครื่องวัดความสูง จอภาพระดับสายตา HUD ที่สามารถแสดงข้อมูลจากเรดาร์เสมือนจริงสำหรับการฝึก ระบบบริหารจัดการภายในเครื่อง คันบังคับและคันเร่งแบบโฮทาส กล้องวิดีโอบันทึกภาพ การปรับปรุงโครงสร้างอากาศในส่วนคานล่างและส่วนด้านบนของลำตัวใหม่ ให้แข็งแรงขึ้น และเปลี่ยนเก้าอี้ที่นั่งนักบินเป็นเก้าอี้ดีดตัว มาร์ติน-เบเกอร์ มาร์ค16 โครงการปรับปรุงยืดอายุการใช้งาน เอฟ-5 บี
เปลี่ยนใหม่กลายเป็น เอฟ-5บีเอ็ม (F-5BM) แบบในปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นเครื่องฝึกนักบินขับไล่ รวมทั้งศิษย์การบินชั้นปีที่ 4 เพื่อเตรียมพร้อมรับเครื่องบินยุคที่ 4-5 เช่น ยูโรไฟต์เตอร์ และเอฟ-35 เอ ไลท์นิ่ง ทู กองทัพอากาศสเปน ไม่ได้หยุดแต่เพียงปรับปรุงอากาศยาน แต่ได้มีวิวัฒนาการในการสร้างซิมมูเลเตอร์ฝึกการบินใหม่ โดยจำลองทุกอย่างมาเหมือนเครื่องบินจริง เพื่อตอบสนองการฝึกสอนนักบินด้วยหลักสูตรการรบทางอากาศและโจมตี 108 หลักสูตร ผ่านเทคโนโลยีแบบเวอร์ชวลเรียลลิตี้ (VR) รวมทั้งเทคโนโลยีดิจิทัลอื่นๆ ที่สร้างได้
แม้กาลเวลาจะผ่านไป 50 ปีนับตั้งแต่เริ่มต้นเข้าประจำการ เอฟ-5 ได้ฝึกนักบินมาแล้วรุ่นแล้วรุ่นเล่า จนถึงนักบินขับไล่ยุคดิจิทัลที่บินกับเครื่องบินไฮเทคที่สุดของ ทอ.สเปน เอฟ-5 ก็ยังเป็นเครื่องครูที่ยังยืนยันอยู่ในกองทัพด้วยข้อดีที่ยากจะหาเครื่องบินชนิดอื่นมาแทน ทั้ง 19 ลำของกองบิน 23 จาก 70 ลำที่สร้างขึ้น ยังบินขึ้นทุกวันเพื่อสร้างนักบินรุ่นใหม่ต่อไป
ทั้งหมดนี้ คือ เรื่องราวอีกหน้าหนึ่งของเครื่องบิน เอฟ-5 ที่ปัจจุบันก็ยังมีประจำการอยู่ในกองทัพอากาศหลายชาติ แม้แต่สหรัฐอเมริกา ก็ยังคงใช้งานในฐานะเครื่องบินข้าศึกสมมติ และเครื่องบินฝึกไอพ่นที่ใช้ ที-38บี ทาลอนญาติใกล้ชิดของ เอฟ-5 บี ฝึกนักบินอยู่ ส่วนกองทัพอากาศไทย เอฟ-5 บี และทั้งหมดถูกปลดประจำการในปี 2559 เพราะหมดอายุการใช้งาน อย่างไรก็ตาม เอฟ-5 บี ของ ทอ.ไทยก็เป็นหนึ่งในเครื่องบินที่ผ่านการรบมาแล้วในสมรภูมิบ้านร่มเกล้า ถูกแซม-7 ยิงอัดท้ายจนตูดเยินแต่ยังบินกลับมากองบิน 23 ได้แล้ว ต่อมาก็ซ่อมจนกลับไปบินใหม่ได้อีกรอบ
สำหรับใครอยากเห็น เอฟ-5 บี ลำจริงๆ ไปดูได้ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ เพราะมีเอฟ-5 บี ลำแรกของโลกจากสายการผลิตตั้งแสดงอยู่ และที่หน้ากองบิน 23 อุดรธานี
เรื่องโดย : จุลดิส รัตนคำแปง
ข้อมูลโดย : กองทัพอากาศสเปน (Spanish Air Force)
ภาพโดย : Flickr Spanish Air Force
: ทวิตเตอร์ @EjercitoAire