สื่อนอกเผย ปธน.ทรัมป์เรียกคณะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงระดับสูงมาหารือ คิดใช้ขีปนาวุธโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน เพียงไม่กี่วัน หลังรู้ผลพ่าย ‘ไบเดน’ ในการเลือกตั้งสหรัฐฯ
เมื่อ 17 พ.ย.63 เว็บไซต์เดลี่เมล และมิร์เรอร์ รายงานอ้างข่าวจากนิวยอร์ก ไทม์ เผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้เรียกคณะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงระดับสูง รวมทั้ง นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี นายคริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ รักษาการ รมว.กลาโหมคนใหม่ และพลเอกมาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ มาหารือที่ทำเนียบขาว เมื่อวันพฤหัสฯที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการใช้ขีปนาวุธโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ที่สำคัญของอิหร่าน เพียง 4 วัน หลังผลการเลือกตั้งมีแนวโน้มว่านายโจ ไบเดน เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ ได้เป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ
ตามรายงานระบุว่า การประชุมหารือในเรื่องนี้ของทรัมป์ มีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระหว่างประเทศได้แจ้งชาติสมาชิกสหประชาชาติว่า อิหร่านมีการสต๊อก-สะสมวัตถุที่ใช้ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

...
ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐฯซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อคนหนึ่ง ยืนยันว่ามีการประชุมหารือกันในเรื่องนี้จริง แต่คณะที่ปรึกษาได้พยายามเกลี้ยกล่อมโน้มน้าวให้ทรัมป์ไม่ควรด่วนตัดสินใจโจมตีอิหร่านเพื่อต้องการลงโทษที่แอบดำเนินการโครงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ เพราะเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งกับอิหร่านหนักมากขึ้น
ขณะที่แหล่งข่าวอื่นยังยืนยันกับรอยเตอร์ด้วยเช่นกันว่า ทรัมป์ได้ขอดูทางเลือกต่างๆ ในปฏิบัติการใช้ขีปนาวุธโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน และคณะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงระดับสูงได้ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดตามมา ซึ่งทำให้ทรัมป์ตัดสินใจไม่ลุยต่อ.