อังคารเมื่อวานผมรับใช้ถึงหน่วยงานซิเชอร์ไฮท์สดีนสท์หรือเอสดีที่ฮิตเลอร์แบ่งคนทำงานออกเป็น 5 ระดับ เพื่อใช้กำจัดศัตรูและปฏิบัติการจิตวิทยาให้คนรักฟือเรอร์หรือผู้นำ ซึ่งได้ผลในระยะแรก จนคนคลั่งไคล้ผู้นำฮิตเลอร์กันทั้งประเทศ ไปที่ไหนคนแห่แหนมาต้อนรับกันมืดฟ้ามัวดินโดยที่ไม่ต้องเกณฑ์มาหรือว่าจ้าง ส่วนประชาชนคนที่มีทัศนคติไม่ดีหรือแสดงความเกลียดชังผู้นำก็จะโดนกำจัดอย่างประณีต บางคนถึงขนาดถูกทำให้หายไปจากโลกนี้อย่างไร้ร่องรอย
แต่ละวัน ผู้ปฏิบัติงานของเอสดีต้องรายงานชีวิตของบุคคลเป้าหมายเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาเก็บไว้ในแฟ้มลับ แฟ้มนั้นจะถูกส่งไปสำนักงานใหญ่ที่เบอร์ลิน เอสดียังทำหน้าที่ประเมินสถานการณ์เพื่อนำไปทำข่าวโฆษณาชวนเชื่อเพื่อโน้มน้าวให้ประชาชนภักดีต่อฟือเรอร์หรือท่านผู้นำ (ฮิตเลอร์) และพรรคนาซี
พวกเอสดีกลัวคดีความ เพราะในระยะแรกของการครองอำนาจ ฮิตเลอร์ยังควบคุมศาลไม่ได้ หน่วยเอสดีจึงต้องจัดตั้งคณะทนายความขนาดใหญ่ คัดพวกเรียนจบด้วยคะแนนดีและมีไหวพริบในการปกป้องและสร้างความชอบธรรมด้านกฎหมายให้กับฟือเรอร์และพวกเอสดี
สมัยที่ยังคุมศาลไม่ได้ ฮิตเลอร์ขอให้สภาออกกฎหมายให้ผู้ปฏิบัติงานหน่วยเอสดีสามารถจับกุมคุมขังพวกต่อต้านได้ทันที รวมทั้งส่งไปค่ายกักกันได้ทุกเวลา โดยไม่ต้องผ่านศาล
คนเยอรมันสมัยนั้นสับสนย้อนแย้ง ด้านหนึ่งก็รักภักดีและภูมิใจในฟือเรอร์หรือฮิตเลอร์ ผู้เป็นผู้นำ อีกด้านหนึ่งก็กลัวจนขี้หดตดหายเพราะฮิตเลอร์และเอสดีอยู่เหนือกฎหมาย มีอำนาจเหนือชีวิตและเสรีภาพของพวกตน แม้ขณะกำลังขึ้นศาล เจ้าหน้าที่เอสดีก็สามารถเข้ามาฉกตัวออกไปอย่างไม่มีใครทราบชะตากรรม
การโจมตีโปแลนด์เมื่อกันยายน 1939 เป็นชนวนไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 คราวนี้มีการขยายการทำงานของเอสดีเป็น 2 สำนักงาน คือสำนักงานเอสดีในประเทศและนอกประเทศ เอสดีในประเทศทำงานการข่าวกรองและความมั่นคงภายใน มีทั้งหมด 6 กรม กรมเอดูกฎหมาย กรมบีดูแลเชื้อชาติและชาติพันธุ์ กรมซีหาข่าวศาสนาและวัฒนธรรม กรมดีหาข่าวการค้าและอุตสาหกรรม และกรมอีหาข่าวกับพวกสังคมระดับสูง ทุกกรมมีหน้าที่ทำลายความน่าเชื่อถือของศัตรูและปฏิบัติการจิตวิทยาให้คนรักภักดีผู้นำและพรรคนาซี
...
ส่วนเอสดีนอกประเทศแบ่งงานเป็น 6 กรมเช่นกัน กรมเอว่าด้วยการบริหาร กรมบีว่าด้วยจารกรรมในประเทศตะวันตก กรมซีว่าด้วยจารกรรมในโซเวียตและญี่ปุ่น กรมดีว่าด้วยการจารกรรมในเขตอิทธิพลของสหรัฐฯ กรมอีว่าด้วยการจารกรรมในยุโรปตะวันออก และกรมเอฟว่าด้วยเทคนิคที่ต้องใช้ในการจารกรรมและปฏิบัติการจิตวิทยา
เมื่อถูกใช้ให้ไปสู้รบนานเข้า ทหารเยอรมันก็ทนไม่ไหวจึงวางแผนวางระเบิดฮิตเลอร์ แต่ถูกหน่วยเอสดีจับได้ ฮิตเลอร์จึงสั่งให้ขยับสถานะหน่วยงานการข่าวและปฏิบัติการเป็นกองทัพเอสเอส (Waffen SS) และให้เป็นกำลังหลักของชาติแทนกองทัพบก
หลังจากแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 หน่วยเอสดีโดนข้อหาเป็นองค์กรที่ก่ออาชญากรรมต่อสันติภาพ ศาลทหารระหว่างประเทศแห่งนูเรมเบิร์กตัดสินให้นำผู้นำหน่วยเอสดีขึ้นศาลพิจารณาโทษ พวกที่เคยสร้างแอร์วอร์โจมตีประชาชนคนผู้เห็นต่าง ถูกนำไปลงโทษทั้งหมด
ขณะนี้ มีรัฐบาลของบางประเทศทุ่มงบมหาศาลเพื่อสร้างองค์กรลักษณะเดียวกันกับที่ฮิตเลอร์ ซัดดัมและกัดดาฟีเคยสร้าง
ผมขอแนะนำว่าหยุดเอาภาษีประชาชนไปละเลงสร้างความนิยมให้ตนเองและพวกเถิดครับ
ในอดีต ขนาดยังไม่มีโซเชียลมีเดีย หน่วยงานพวกนี้ยังมีประสิทธิภาพเฉพาะในช่วงแรก แต่เมื่อประชาชนรู้ความจริงจากปากต่อปาก งานของพวกคุณก็แป๊ก สมัยนี้ ประชาชนทุกคนเข้าถึงโซเชียลมีเดีย คุณต้องใช้ความดี ความขยัน และการมีความสามารถของจริงเข้าสู้ รัฐบาลของคุณจึงจะสามารถครองใจประชาชนได้.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com