กษัตริย์บาห์เรนทรงแต่งตั้งเจ้าชายซัลมาน มกุฎราชกุมารขึ้นเป็นนายกฯใหม่ หลังเจ้าชายเคาะลิฟะฮ์ สิ้นพระชนม์ ปิดตำนานนายกฯที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลก

เมื่อ 12 พ.ย.63 เว็บไซต์อัลจาซีรา รายงานว่า เจ้าชายเคาะลิฟะฮ์ บิน ซัลมาน อัลเคาะลิฟะฮ์ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรบาห์เรน สิ้นพระชนม์แล้ว ด้วยวัย 84 ชันษา เมื่อเช้าวันพุธที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมายาวนานถึง 49 ปี จนนับเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลก

สำนักข่าวของทางการบาห์เรน ‘Bahrain News Agency’ ซึ่งได้แจ้งข่าวการจากไปของนายกรัฐมนตรีบาห์เรนในครั้งนี้ ระบุด้วยว่า เจ้าชายเคาะลิฟะฮ์ ได้สิ้นพระชนม์ที่โรงพยาบาลเมโย คลินิก ในสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม

ทางการบาห์เรนลดธงชาติลงครึ่งเสา ไว้อาลัยเจ้าชายเคาะลิฟะฮ์ บิน ซัลมาน อัลเคาะลิฟะฮ์ นายกรัฐมนตรี สิ้นพระชนม์ เมื่อ 11 พ.ย.63
ทางการบาห์เรนลดธงชาติลงครึ่งเสา ไว้อาลัยเจ้าชายเคาะลิฟะฮ์ บิน ซัลมาน อัลเคาะลิฟะฮ์ นายกรัฐมนตรี สิ้นพระชนม์ เมื่อ 11 พ.ย.63

...

ต่อมา สมเด็จพระราชาธิบดีฮาห์หมัด บิน อีซา อัล เคาะลิฟะฮ์ แห่งราชอาณาจักรบาห์เรนทรงแต่งตั้งเจ้าชายซัลมาน บินฮะหมัด อัลเคาะลีฟะฮ์ มกุฎราชกุมาร ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของบาห์เรน เมื่อ 11 พ.ย.63 นอกจากนั้น สมเด็จพระราชาธิบดีฮาห์หมัด ทรงประกาศไว้อาลัยอย่างเป็นทางการต่อการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเคาะลิฟะฮ์ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ พร้อมกับมีการลดธงชาติลงครึ่งเสาเพื่อแสดงความไว้อาลัย ส่วนพิธีฝังพระศพจะมีขึ้นหลังจากมีการนำพระศพกลับจากสหรัฐอเมริกามาถึงบาห์เรน

ทั้งนี้ เจ้าชายเคาะลิฟะฮ์ ทรงรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีบาห์เรน ตั้งแต่ พ.ศ.2513 จนถึง 11 พ.ย.2563 โดยทรงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกือบ 2 ปี ก่อนที่บาห์เรนจะได้รับเอกราชในวันที่ 15 สิงหาคม 2514 และทรงเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลก ก่อนจะสิ้นพระชนม์เมื่อ 11 พ.ย.63.