หุ้นสหรัฐฯ ปิดแคบ ขณะที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังยืดเยื้อ ส่วนราคาน้ำมันร่วงหนัก จากความกังวลเรื่องโควิดในยุโรป ด้านราคาทองคำเพิ่มต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายวันที่ 6 พ.ย. 2563 แบบผสมผสาน โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 66.78 จุด หรือราว 0.24% ปิดที่ 28,323.40 จุด ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 1.01 จุด หรือไม่ถึง 0.03% ปิดที่ 3,509.44 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 4.30 จุด หรือไม่ถึง 0.04% ปิดที่ 11,895.23 จุด

วอลล์สตรีทเข้าสู่ช่วงพักหายใจหลังจากทำสถิติเป็นสัปดาห์ที่หุ้นขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่า นักลงทุนเห็นประโยชน์จากการนับคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อ โดยตอนนี้ไบเดนมีคะแนนนำนายทรัมป์ในหลายรัฐสำคัญ ขณะที่รีพับลิกันมีแนวโน้มจะได้ครองวุฒิสภาอีกครั้ง ลดโอกาสที่จะมีการขึ้นภาษีและออกข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้นต่อธุรกิจต่างๆ

ด้านราคาน้ำมันดิ่งหนักในวันศุกร์ จากความกังวลเรื่องแนวโน้มความต้องการพลังงาน หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯ และยุโรปยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสหรัฐฯ รายงานพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 120,000 รายในวันเดียว นอกจากนี้ราคายังถูกกดดันจากการเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันดิบในลิเบียด้วย

สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4.3% ไปอยู่ที่ 37.14 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.52 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3.7% ไปอยู่ที่ 39.41 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ผลงานตลอดทั้งสัปดาห์ของ WTI บวก 4.5% ส่วนเบรนต์ บวก 6%

...

ส่วนราคาทองคำ ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันศุกร์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์ลดลงอีก 0.34% โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 4.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.3% ปิดที่ 1,951.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ขณะที่ผลงานทั้งสัปดาห์ ราคาทองเพิ่มขึ้นราว 3.8% เป็นสัปดาห์ที่มากที่สุดในรอบ 3 เดือน