ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส กับ อเมริกัน แอร์ไลน์ส สายการบินใหญ่ของสหรัฐฯ ปลดพนักงานชั่วคราว 32,000 คน หลังมาตรการช่วยเหลือเรื่องค่าแรงของรัฐบาลหมดอายุ ทำให้พวกเขาไม่มีเงินจ่ายค่าจ้าง

สำนักข่าว เอ็นพีอาร์ รายงานว่า 2 สายการบินรายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส กับ อเมริกัน แอร์ไลน์ส ส่งเอกสารแจ้งถึงพนักงานรวมมากกว่า 32,000 คน ว่า หลังจากวันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค. 2563 พวกเขาจะไม่สามารถจ่ายค่าแรงให้กับพนักงานกลุ่มนี้ได้แล้ว เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายที่กฎหมายสนับสนุนค่าจ้าง ‘CARES Act PSP’ ของรัฐบาลสหรัฐฯ มีผลบังคับใช้

“ถึงสมาชิกครอบครัวของเราที่กำลังจะจากไปทั้ง 13,000 คน ขอบคุณสำหรับการอุทิศตัว และเราจะตั้งตารอต้อนรับพวกคุณกลับมา” ข้อความที่ ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ส่งถึงพนักงานเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา โดยพนักงานที่ได้รับผลกระทบกว่าครึ่ง อยู่ในแผนกให้บริการบนเที่ยวบิน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการเลิกจ้างชั่วคราว และพวกเขามีแผนจะรับพนักงานกลุ่มนี้กลับมาอีกครั้งเมื่อสถานการณ์ของบริษัทดีขึ้นในอนาคต

ด้าน อเมริกัน แอร์ไลน์ส ก็ส่งข้อความคล้ายกันถึงพนักงานกว่า 19,000 คน โดยนายดั๊ก พาร์คเกอร์ ซีอีโอของอเมริกัน แอร์ไลน์ส ระบุว่า อาจมีการยกเลิกคำสั่งนี้ หากรัฐบาลกลางสามารถบรรลุข้อตกลงแพ็กเกจช่วยเหลือธุรกิจก้อนใหม่ เขายังหวังให้มีการขยายอายุของกฎหมาย CARES Act PSP และรับปากว่าจะยกเลิกคำสั่งปลดพนักงานชั่วคราวทันทีหากมีการบรรลุข้อตกลงภายใน 2-3 วันข้างหน้า

“ผมได้คุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สตีเวน มนูชิน แล้วเมื่อคืนวันพุธ” นายพาร์คเกอร์ระบุในจดหมายที่ส่งให้พนักงานเมื่อวันพุธ “เขาแจ้งผมว่าทำเนียบขาวและประธานสภาผู้แทนราษฎร แนนซี เพโรซี กำลังเจรจากันเรื่องแพ็กเกจเยียวยาโควิด-19 ร่วม 2 พรรค ซึ่งอาจรวมถึงการขยายกฎหมาย PSP ด้วย และมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะบรรลุข้อตกลงภายในไม่กี่วันข้างหน้า”

...

ทั้งนี้ 4 สายการบินใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้คำมั่นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า จะไม่เลย์ออฟพนักงานจนถึงสิ้นเดือนกันยายน แลกกับการรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลางมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยอเมริกัน แอร์ไลน์ส ได้ 5.8 พันล้าน, เดลตา แอร์ไลน์ ได้ 5.4 พันล้าน, ยูไนเต็ดฯ ได้ราว 5 พันล้าน และเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส ได้ไปเกือบ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ.