การปะทะระหว่างอาเซอร์ไบจานกับอาร์เมเนีย ส่อเค้าลุกลามบานปลาย เมื่อฝ่ายหลังออกมาอ้างว่า เอฟ-16 ของตุรกี ยิงเครื่องบินรบของพวกเขาจนตก และนักบินเสียชีวิต
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า การปะทะกันระหว่างกองทัพของประเทศอาร์เมเนียกับอาเซอร์ไบจาน บริเวณพื้นที่พิพาท ‘ภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค’ ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 3 ในวันอังคารที่ 29 ก.ย. 2563 และเกิดเหตุการณ์ที่อาจทำให้สถานการณ์บานปลายยิ่งขึ้น เมื่อรัฐบาลอาร์เมเนียออกมากล่าวหาตุรกีว่า ยิงเครื่องบินรบของพวกเขาตก
นางซูซาน สเตฟานียาน โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศอาร์เมเนียเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า เครื่องบินรบ ‘ซู-25’ ของประเทศ ถูกยิงตก โดยเครื่องบินขับไล่ ‘เอฟ-16’ ของตุรกี เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ผ่านมา และนักบินเสียชีวิตอย่างวีรบุรุษ เธอยังระบุด้วยว่า เอฟ-16 ของตุรกีรุกล้ำน่านฟ้าของอาร์เมเนียเข้ามาไกลถึง 60 กม.
...
ตุรกีซึ่งมีเครื่องบินเอฟ-16 ในกองทัพ ประกาศอย่างชัดเจนตั้งแต่การปะทะกันเริ่มขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าพวกเขาสนับสนุนอาเซอร์ไบจาน ขณะที่ฝ่ายอาเซอร์ไบจานก็ยืนยันมาตลอดว่า กองทัพอากาศของพวกเขาไม่มีเครื่องบินเอฟ-16
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตุรกีออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของอาร์เมเนียทันที โดยนายฟาห์เรตติน อัลตุน ที่ปรึกษาของประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป เอร์โดอัน กล่าวว่า “อาร์เมเนียควรถอนตัวออกจากดินแดนที่พวกเขาเข้ายึดครอง แทนที่จะมาใช้ลูกไม้โฆษณาชวนเชื่อตื้นๆ แบบนี้”
ด้านสถานการณ์การต่อสู้ในวันอังคาร อาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานระบุตรงกันว่า เกิดการปะทะกันอย่างหนักตลอดคืนที่ผ่านมา ในภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัค โดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนซึ่งปกครองพื้นที่พิพาทดังกล่าว และได้รับการสนับสนุนจากอาร์เมเนีย ระบุว่า ทหารของพวกเขาเสียชีวิตไปแล้ว 87 ศพ และบาดเจ็บอีก 120 นาย ตั้งแต่การปะทะกันเริ่มขึ้นเมื่อวันอาทิตย์
พวกเขาอ้างด้วยว่า ฝ่ายอาร์เซอร์ไบจานเสียชีวิตเกือบ 400 คน, ทำลายเครื่องบินได้ 1 ลำ, เฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ และรถถังอีกจำนวนหนึ่ง
ส่วนกระทรวงกลาโหมของอาเซอร์ไบจาน ระบุว่า กองทัพอาร์เมเนียพยายามยึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญอย่าง ฟูซูลี-จาบรายิล และ อักห์เดเร-เตอร์เตอร์ หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลว ขณะที่รถหุ้มเกราะและยานพาหนะต่อสู้ของอาร์เมเนียจำนวนมากถูกทำลาย.