ครอบครัวของนาง รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก อดีตผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐฯ จัดพิธีอย่างเป็นส่วนตัวที่อาคารศาลสูงสุด และให้ประชาชนได้มาแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า พิธีศพของ รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก อดีตผู้พิพากษาศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ซึ่งถึงแก่กรรมเมื่อสัปดาห์ก่อน ถูกจัดขึ้นที่ห้องโถงใหญ่ของอาคารศาลสูงสุด ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันพุธที่ 23 ก.ย. 2563 โดยโลงบรรจุศพของเธอจะถูกตั้งไว้ ณ สถานที่แห่งนี้เป็นเวลา 2 วัน เพื่อให้ประชาชนได้มาบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย
...
ขบวนรถขนโลงบรรจุศพของนางกินส์เบิร์ก เดินทางมาถึงศาลสูงสุดในเวลาประมาณ 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีอดีตเสมียนศาลของเธอนับร้อยคนยืนบนบันไดทางเข้าศาล เพื่อรอต้อนรับการกลับมาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนพิธีศพอย่างเป็นส่วนเฉพาะ เฉพาะครอบครัวและคนใกล้ชิดจะถูกจัดขึ้นภายในห้องโถงใหญ่ของศาล
ภายในพิธี บุคคลสำคัญหลายคนกล่าวเชิดชูเกียรติของนางกินส์เบิร์ก โดยรับบี ลอเรน โฮลต์ซแบลตต์ ยกย่องงานของนางกินส์เบิร์กที่ต่อสู้เพื่อการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมระหว่างบุรุษและสตรี ว่า มรดกของกินสเบิร์ก เปิดทางให้แก่เด็กหญิงและสตรีทุกวัย ผู้ที่ตอนนี้ได้รู้แล้วว่าไม่มีงานใดอยู่ไกลเกินฝัน
ขณะที่ นายจอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลสูงสุดสหรัฐฯ กล่าวว่า รูธ กินส์เบิร์ก เป็นคนเข้มแข็ง และเผยด้วยว่า เธอต้องเผชิญการกีดกันอย่างไร จากการเป็นผู้หญิงในวงการกฎหมาย “เธอเลือกเรียนกฎหมาย และตกเป็นเป้าการกีดกันในโรงเรียนกฎหมายกับตลาดอาชีพ เพราะเธอเป็นผู้หญิง ซึ่งทำให้เธอเติบโตมาเป็นผู้นำการต่อสู้กับการกีดกันเช่นนั้นในศาล”
หลังจากเสร็จพิธี โลงศพของผู้พิพากษากินส์เบิร์กก็ถูกเคลื่อนย้ายออกมาตั้งที่ระเบียงทางเดินบริเวณบันไดขึ้นบนสุดหน้าทางเข้าศาล เพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาแสดงความอาลัยและบอกลาเป็นครั้งสุดท้ายในวันพุธและพฤหัสบดีนี้ โดยว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเดินทางมาในวันพฤหัสบดี
...
จากนั้นในวันศุกร์ ผู้พิพากษากินส์เบิร์กจะได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ว่าเป็นผู้หญิงคนแรกที่โลงบรรจุศพจะถูกนำไปตั้งที่โถงรูปสลักแห่งชาติ (National Statuary Hall) ภายในอาคารรัฐสภา และจะมีการจัดพิธีศพอย่างเป็นทางการ แต่รับเฉพาะแขกที่ได้รับเชิญเท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ก่อนจะมีการจัดพิธีฝังศพเป็นการส่วนตัวในสัปดาห์หน้า
...
ทั้งนี้ ผู้พิพากษากินส์เบิร์กส์ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2563 จากอาการแทรกซ้อนของโรคมะเร็งตับอ่อน ที่บ้านพักในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. รวมอายุ 87 ปี โดยเธอเป็นผู้พิพากษาอาวุโสที่อายุมากที่สุด และเป็นสตรีคนที่สองที่ได้เข้ามาทำงานในศาลสูง และดำรงตำแหน่งนานถึง 27 ปี เธอยังเป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีคนสำคัญ และเป็นหัวหอกให้กับฝ่ายเสรีนิยมในการเมืองสหรัฐฯ ด้วย
