กลุ่มผู้อพยพจากลิเบีย 27 คน ซึ่งได้รับการช่วยเหลือจากเรือบรรทุกน้ำมันเดนมาร์กในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ได้รับอนุญาตให้ขึ้นฝั่งของอิตาลีแล้ว หลังจากอยู่บนเรือลำนี้กลางทะเลมานานกว่า 40 วัน
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ผู้อพยพทั้ง 27 ราย รวมถึงหญิงตั้งครรภ์ 1 คน เดินทางออกจากประเทศลิเบีย เมื่อวันที่ 2 ส.ค. แต่ไม่นานเรือของพวกเขาก็เริ่มจม อย่างไรก็ตาม เรือบรรทุกน้ำมัน ‘เมิร์สก์ เอเตียน’ ของเดนมาร์กมาช่วยพวกเขาขึ้นไปบนเรือ แต่ทั้งอิตาลีและลิเบียต่างไม่ยอมรับผู้อพยพกลุ่มนี้ ทำให้เรือบรรทุกน้ำมันไม่สามารถเข้าเทียบท่าได้ และต้องอยู่กลางทะเลมานานกว่า 40 วัน
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดทางอาการอิตาลีก็ยอมให้ผู้อพยพกลุ่มนี้กลับขึ้นฝั่งแล้ว โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.ย. 2563 กลุ่มช่วยเหลือมนุษย์เมดิเตอร์เรเนีย (MSH) ส่งเรือกู้ภัยไปรับตัวผู้อพยพลงจากเรือ เมิร์สก์ เอเตียน แล้วพาไปยังเมืองท่าปอซซัลโล บนเกาะซิซิลี และขึ้นฝั่งในคืนวันอาทิตย์ “นี่ถือเป็นการยุติการเผชิญหน้าที่ยาวนานและน่าอับอายที่สุดในประวัติศาสตร์การเดินทางทางทะเลของยุโรป” กลุ่มเมดิเตอร์เรเนีย ระบุผ่านทวิตเตอร์
ทั้งนี้ ตามการเปิดเผยของบริษัท ‘เมิร์สก์ แทงเกอร์ส’ ผู้ให้บริการเรือบรรทุกน้ำมัน เมิร์สก์ เอเตียน พวกเขารับผู้อพยพขึ้นมาตามคำขอจากรัฐบาลมอลตา แต่มอลตายืนยันว่าไม่ได้มีการขอร้องใดๆ และว่าการช่วยเหลือครั้งนี้เกิดขึ้นนอกน่านน้ำของพวกเขา
หนึ่งในผู้อพยพชื่อ กาซิม โยนกระดาษข้อความให้นักข่าวจาก มอลตาทูเดย์ ที่เดินทางไปติดตามสถานการณ์ ขอให้โทรศัพท์บอกครอบครัวของเขาในซูดานว่า เขายังไม่ตาย ขณะที่นางเอมเบตตา หญิงตั้งครรภ์จากแคเมอรูน บอกกับนักข่าวว่า พวกเธอไม่ต้องการไปมอลตา พวกเธอเพียงต้องการความช่วยเหลือ พวกเธออยากลงจากเรือ ขณะที่สื่ออิตาลีระบุว่า บนเรือลำนี้ยังมีผู้อพยพจากประเทศชาด, เอริเทรีย และลิเบียด้วย
...
การตัดสินใจให้ผู้อพยพกลุ่มนี้ขึ้นฝั่งของอิตาลี เกิดขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดในกลุ่มลูกเรือและผู้อพยพบน เมิร์สก์ เอเตียน เพิ่มขึ้นถึงขีดสุด เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้อพยพอย่างน้อย 3 คนถึงขั้นกระโดดลงจากเรือเพื่อว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งแต่ไม่สำเร็จ ทำให้ลูกเรือต้องช่วยเหลือพวกเขาอีกครั้ง
ขณะที่กลุ่มเมดิเตอร์เรเนียเผยว่า ผู้อพยพอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง หลังจากอยู่บนเรือมานานหลายสัปดาห์ และมีหลายคนที่เสี่ยงจะทำร้ายตัวเองหรือจบชีวิตตัวเอง
เมื่อสัปดาห์ก่อน องค์การสหประชาชาติ (UN) กับองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) และ สภาหอการค้าขนส่งทางเรือระหว่างประเทศ (ICS) ออกมาเรียกร้องให้ผู้อพยพกลุ่มนี้ได้ขึ้นฝั่งในทันที “เมิร์สก์ เอเตียน ทำตามความรับผิดชอบของพวกเขา แต่กลับพบว่าตัวเองตกอยู่ในเกมส่งของ (pass the parcel) ทางการทูต”