ก้าวร้าว, แทงข้างหลังเพื่อน, แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นลูกเลี้ยง และพยายามมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของทำเนียบขาวแบบผิดๆ ทั้งหมดนี้คือความร้ายกาจที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าโบท็อกซ์ของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งแห่งสหรัฐอเมริกา “เมลาเนีย ทรัมป์” ที่อดีตเพื่อนซี้และที่ปรึกษาคนสนิท ออกมาเขียนหนังสือแฉเป็นฉากๆ โยนระเบิดลูกใหญ่ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเพียง 2 เดือน มันช่างเหมาะเหม็งจริงๆเชียว
บอกเลยว่า คนใกล้ตัวคือคนที่ร้ายที่สุด!! คนดังส่วนใหญ่ต้องมาพังถูกทำลายชื่อเสียงก็เพราะคนกันเองที่เคยสนิทสนมใกล้ชิดนี่แหละ งานนี้ “สเตฟานี วินสตัน โวล์กคอฟฟ์” จงใจตีแผ่ความเน่าตมของครอบครัวทรัมป์ให้สาธารณชนได้ฮือฮา ด้วยการจดปากกาเขียนหนังสือสุดฉาว “Melania and Me : THE RISE AND FALL OF MY FRIENDSHIP WITH THE FIRST LADY” ลากไส้สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งเพื่อระบายความแค้นฝังหุ่น
“สเตฟานี” ยอมรับว่า เสียแรงจริงๆที่รู้จักกันมา 15 ปี ตั้งแต่สมัยที่ “เมลาเนีย” เป็นนางแบบต๊อกต๋อยยังไม่ได้เป็นคุณนายทรัมป์ ขณะที่ตอนนั้นเธอเป็นคนจัดงานอีเวนต์มือทองของนิตยสารโว้ก และเป็นสื่อกลางให้เพื่อนสาวได้เจอมหาเศรษฐีตระกูลทรัมป์
ตอนจูบปากดีกัน “สเตฟานี” ถูกชักนำให้มาเป็นที่ปรึกษาทำเนียบขาวคอยจัดแจงงานให้ทุกอย่าง แต่พอเกิดเรื่องอื้อฉาว เพื่อนสาวกลับเขี่ยเธอทิ้งอย่างไม่ไยดี เพราะกลัวติดร่างแหโดนขุดคุ้ยเรื่องการละเลงงบมหาศาลในการจัดพิธีฉลองการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วบ้านทั่วเมือง
งานนี้นายหญิงแห่งทำเนียบขาวไม่ลังเลใจที่จะโบ้ยความผิดไปที่เพื่อนสาวเต็มๆ โดยชี้เป้าว่าเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดงานฉลองการเข้ารับตำแหน่ง สาเหตุที่ทำให้ “สเตฟานี” แค้นสุดจิต เพราะนอกจากเพื่อนเลิฟจะไม่ช่วยปกป้องเพื่อน ทั้งๆที่เป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลังทุกอย่าง นางยังซ้ำเติมด้วยการประกาศว่าจะให้ความร่วมมือเต็มที่กับเจ้าหน้าที่สอบสวนของรัฐบาลกลางเพื่อตรวจสอบเอาตัวคนผิดมาลงโทษ โชคยังดีที่ “สเตฟานี” รอบคอบแอบบันทึกเทปสนทนาระหว่างทั้งสองคนไว้เป็นหลักฐานมัดตัว แม้จะรอดคุกรอดตะรางมาได้ แต่ก็เสื่อมเสียชื่อเสียงไปเยอะจนแทบไม่มีที่ยืนในสังคม
...
“สเตฟานี” ยังระบายไว้ในหนังสือถึงความร้ายกาจของเพื่อนเลิฟว่า อดีตนางแบบตะกายดาวจากสโลวีเนียมักจะสร้างภาพว่าเป็นเหยื่อสามีผู้ฉุนเฉียวที่ชอบกดขี่ผู้หญิง เพื่อเรียกความเห็นอกเห็นใจจากชาวโซเชียล แต่ลึกๆแล้วแม่เนี่ยคือนางมารร้ายตัวจริง!! ที่พยายามกีดกันลูกเลี้ยงทุกอย่าง โดยขัดขวางไม่ให้ “อิวานกา ทรัมป์” ลูกสาวประธานาธิบดีได้ซีนเด่นในการถ่ายภาพสำคัญในพิธีฉลองการเข้ารับตำแหน่ง แถมยังแอบตั้งฉายาให้ลูกเลี้ยงว่า “เจ้าหญิง” แต่พอเผลอลับหลังก็จิกกัดลูกเลี้ยงกับสามีว่าเป็น “งูพิษ” เพราะทั้งคู่คือเสี้ยนหนามทิ่มแทงใจ กระแสข่าวเรื่องการตีกันของแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงในทำเนียบขาว ล้วนแต่เป็นจริงทั้งนั้น มันหยดติ๋งไหมล่ะ?!
เป็นคนอื่นคงหน้าชาเก็บเนื้อเก็บตัวพักใหญ่ แต่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งออกมาทวีตตอบโต้เบาๆว่า อยากให้สื่อโฟกัสและรายงานข่าวเรื่องปัญหาวิกฤติยาเสพติดของชาติ มากกว่าจะสนใจคำนินทาว่าร้ายที่เป็นภัยคุกคามและเกิดจากการมโน
แหมๆๆใกล้เลือกตั้งทีไร ก็ถึงฤดูกาลสาดโคลนใส่กันทุกที นี่มันการเมืองยุคไหนแล้ว เอาฝีมือมาสู้กันดีกว่าไหม.
มิสแซฟไฟร์