ตาโตกันไปทั้งบั๊กกิ้งแฮม เมื่อเห็นข่าว “ค่ายเน็ตฟลิกซ์” ใจปํ้าควักเงิน 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เซ็นสัญญากับ “เจ้าชายแฮร์รี่” และ “เมแกน มาร์เคิล” เพื่อจ้างผลิตรายการสารคดีแบบเอกซ์คลูซีฟยาวๆไป ในฐานะแฟนพันธุ์แท้อดโล่งใจแทนไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้ทั้งคู่ต้องวิ่งสู้ฟัดหาเงินหาทองเลี้ยงตัวเองให้ได้ หลังโดนรัฐบาลตัดเกลี้ยงเงินอุดหนุนประจำปีของพระราชวงศ์

บ้านก็ต้องเช่าข้าวก็ต้องซื้อลูกก็ยังเล็ก แถมเพิ่งจ่ายเงิน 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซื้อแมนชั่นหรูถิ่นฮอลลีวูด ย่านซานตาบาร์บาร่า เพื่อปักหลักเริ่มต้นชีวิตใหม่บนพรมแดง อะไรที่ทำเงินทำทองได้จึงต้องคว้าโอกาสไว้ก่อน มีรายงานจากสื่อหลายสำนักของอังกฤษว่า ตอนถอนสายบัวทูลลาจากราชวงศ์ “คู่ขบถแห่งวินด์เซอร์” มีเงินติดกระเป๋ารวมกันแค่ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาจากมรดกของ “เจ้าชายแฮร์รี่” ที่ได้รับตกทอดจากพระมารดาผู้ล่วงลับ “เจ้าหญิงไดอาน่า” บวกกับเงินอุดหนุนประจำปีจากสำนักงานจัดการลงทุนทรัพย์สินส่วนพระองค์ “ดัชชี ออฟ คอร์นวอลล์” ของ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ที่ให้พระโอรสทั้งสององค์ ตกปีละ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นค่าเดินทางและค่าแต่งตัวสำหรับปฏิบัติพระกรณียกิจต่างๆ ฝ่าย “เมแกน” มีทรัพย์สินติดตัวไม่ถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพราะเคยได้ค่าตัวจากการแสดงปีละเพียงครึ่งล้าน

นับว่าโชคดีมากที่ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ยังไม่ตัดท่อน้ำเลี้ยงซะทีเดียว ทั้งๆที่ระยะหลังพระโอรสองค์เล็กแทบไม่ได้ทำงานรับใช้ราชวงศ์และประชาชนชาวอังกฤษเลย

...

เฮ้อ!! ในเมื่อบวกลบคูณหารยังไงๆก็ไม่พอใช้สำหรับครอบครัวกินหรูอยู่แพงของเจ้าชายแฮร์รี่และศรีภรรยา อาการวิ่งสู้ฟัดกระโดดคว้าทุกโอกาสที่สบช่องทำเงิน จึงทำให้ “คู่ขวัญใหม่ฮอลลีวูด” ดูร้อนรนนิดๆ ยังดีที่ยักษ์ใหญ่ใจถึงอย่าง “เน็ตฟลิกซ์” กระโดดอุ้มไว้ทัน เลยหายใจหายคอคล่องหน่อย ไม่ต้องเก็บกระเป๋ากลับไปซบอกควีนเอลิซาเบธที่สองอย่างที่มีการสบประมาทกันไว้

เรื่องเงินๆทองๆค่าใช้จ่ายของพระราชวงศ์เป็นประเด็นร้อนมาทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะเมื่อไหร่ที่เศรษฐกิจฝืดเคือง รัฐบาลเจอวิกฤติ ก็มักจะหาเรื่องโบ้ยความผิดมาที่เจ้าเสมอ หนึ่งในตัวอย่างคลาสสิกที่สุดคือ ยุคนายกรัฐมนตรีเจมส์ แฮโรลด์ วิลสัน ในช่วงปลายทศวรรษ 1960 รัฐบาลโดนโจมตีหนักเรื่องเศรษฐกิจตกสะเก็ด แต่หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษกลับพุ่งเป้าโจมตีไปที่พระราชวงศ์ หลัง ดยุกแห่งเอดินเบอระ “เจ้าชายฟิลิป” พระสวามีของควีนเอลิซาเบธที่สอง ออกมาโอดครวญผ่านสื่อมะกันว่า พระราชวงศ์ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่บานเบอะ กลายเป็นชนวนระเบิดจุดความไม่พอใจให้ประชาชนอยู่พักใหญ่

กระนั้น แทนที่จะสงบปากสงบคำ “เจ้าชายฟิลิป” กลับสาดน้ำมันเข้ากองเพลิง ด้วยการเชิญสำนักข่าวบีบีซีมาถ่ายทำสารคดีภายในบั๊กกิ้งแฮมเป็นครั้งแรก เพื่อให้ประชาชนชาวอังกฤษได้เห็นถึงชีวิตจริงของพระบรมวงศานุวงศ์ว่า กินอยู่เรียบง่ายเพียงใด และต้องทำงานหนักขนาดไหนเพื่อให้คุ้มค่าเงินภาษีของประชาชน ผลลัพธ์ที่ได้ตรงข้ามกับเป้าหมายคนละเรื่อง กลับกลายเป็นว่าราชวงศ์ยิ่งถูกโจมตีหนักจากสื่อและประชาชน มีการขุดคุ้ยถึงการใช้จ่ายเงินรัฐอย่างฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น

เมื่อสามีของสุภาพสตรีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอย่าง “ควีนเอลิซาเบธที่สอง” ประกาศว่าตนเองนั้นยากจน และร้องขอเงินเพิ่มจากประชาชนผู้เสียภาษี ในขณะที่ประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ถึงขั้นต้องประกาศลดค่าเงินปอนด์ มีคนตกงานเป็นเบือ ต่อให้เป็นผู้จงรักภักดีต่อสถาบันอย่างสุดหัวใจขนาดไหน ก็คงเกิดคำถามตัวโตๆ.

มิสแซฟไฟร์