เสร็จจาก ‘สงครามเชื้อโรค’ โควิด-19 มาได้ไม่ทันไร จีน ชาติมหาอำนาจแห่งเอเชียต้องมาเผชิญศึกใหญ่ ‘มหาอุทกภัย’ ที่ในปีนี้สถานการณ์หนักมาก จากฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องกว่าทุกปีที่ผ่านมานานนับ 2 เดือน จนเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายมณฑล ทั้งทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ มาจนถึงทางชายฝั่งตะวันออก ตั้งแต่เดือนมิ.ย. 63 แล้ว

ตอนนี้ ชาวจีนยังต้องมาระทึกซ้ำ และเกิดความเครียดวิตกกังวลอย่างยิ่งว่า ‘เขื่อนสามผา’ หรือชาวจีนเรียกขานกันว่า ‘เขื่อนซานเสียต้าป้า’ กั้นขวางแม่น้ำแยงซี ที่เมืองอี้ชาง มณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของจีน อาจจะแตก!! เนื่องจากมีมวลน้ำมหาศาลจากแม่น้ำแยงซี ไหลบ่าเข้าอ่างเก็บน้ำสามผาในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

แม่น้ำแยงซีระดับน้ำขึ้นสูงจนแตะพระบาท ‘พระใหญ่เล่อซาน’ในมณฑลเสฉ​วน  เมื่อ 18 ส.ค.63
แม่น้ำแยงซีระดับน้ำขึ้นสูงจนแตะพระบาท ‘พระใหญ่เล่อซาน’ในมณฑลเสฉ​วน เมื่อ 18 ส.ค.63

...

สุดวิตก ระดับน้ำขึ้นสูงแตะพระบาท ‘พระใหญ่เล่อซาน’ 

สัญญาณร้ายบ่งชี้ว่าในปีนี้ ชาวจีนในหลายมณฑลต้องเผชิญกับ ‘มหาอุทกภัย’ ที่รุนแรงกว่าหลายสิบปีที่ผ่านมา หลังจากฝนที่ถล่มตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ทางการมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ได้ประกาศยกระดับเตือนภัยสถานการณ์น้ำท่วมในมณฑลเสฉวน ขึ้นเป็นขั้นสูงสุด เพื่อเตรียมรับมือกับอุทกภัยระดับสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี และเร่งอพยพชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยนับ 100,000 คนไปอยู่ในศูนย์พักพิงที่ปลอดภัย

จากนั้นไม่กี่วันต่อมา ชาวจีนยิ่งกังวลเพิ่มขึ้น เมื่อระดับน้ำในแม่น้ำแยงซีที่ไหลผ่าน “พระใหญ่เล่อซาน” พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผา องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ที่ภูเขาเอ๋อเหมย หรือรู้จักกันในชื่อ ‘เขาง้อไบ๊’ ที่เมืองเล่อซาน มณฑลเฉสวนนั้น ได้ขึ้นสูงจนแตะพระบาทพระใหญ่เล่อซานเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1949

โดยชาวจีนในท้องถิ่นมีความเชื่อกันว่า หากพระบาทของพระพุทธรูปเล่อซานเปียกน้ำ ก็หมายความว่า นครเฉิงตู ซึ่งปัจจุบันมีประชากร 16 ล้านคน จะถูกน้ำท่วมไปด้วย

ภาพมุมสูง น้ำท่วมใหญ่ในนครฉงชิ่ง เมื่อ 19 ส.ค.63
ภาพมุมสูง น้ำท่วมใหญ่ในนครฉงชิ่ง เมื่อ 19 ส.ค.63

นครฉงชิ่งอ่วม น้ำท่วม หลายแสนคนเดือดร้อนหนัก

นครฉงชิ่ง ในมณฑลเสฉวน ซึ่งอยู่ทางด้านเหนือเขื่อนสามผา ต้องประสบอุทกภัยครั้งร้ายแรง โดยทางการได้อพยพประชาชนเกือบ 300,000 คนก่อนที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา เนืองจากระดับน้ำในแม่น้ำแยงซีใกล้นครฉงชิ่ง ขึ้นสูงสุดชนิดไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นับตั้งแต่ปี 2524 ซึ่งเกิดอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 100 ปี จนทำให้ประชาชนนับ 1.5 ล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในนครฉงชิ่ง เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ว่า ถนน สะพาน สวนสาธารณะต่างๆ และทางหลวงสายสำคัญ ถูกน้ำท่วม ส่งผลกระทบต่อประชาชนนับ 260,000 คน และสร้างความเสียหายให้แก่ธุรกิจการค้าอย่างน้อย 20,000 แห่ง

เขื่อนสามผา เร่งระบายน้ำ ขณะที่ต้องรับมือน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่สร้างเขื่อน
เขื่อนสามผา เร่งระบายน้ำ ขณะที่ต้องรับมือน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่สร้างเขื่อน

...

เปิดสปิลเวย์เขื่อนสามผาทั้งหมดเป็นครั้งแรก

ท่ามกลางความเดือดร้อนอย่างหนักของประชาชนในหลายมณฑล โดยเฉพาะเสฉวน ข่าวที่สร้างความวิตกกังวลอย่างหนักให้แก่ชาวจีนก็มาถึง เมื่อมีรายงาน อ่างเก็บน้ำสามผาของเขื่อนสามผา (Three Gorges Dam) ซึ่งเป็นเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำลังรองรับมวลน้ำหลากมหาศาล โดยสื่อทางการจีนรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ส.ค.63 มวลน้ำมหาศาลได้หลากเข้าอ่างเก็บน้ำสามผาในอัตรา 75,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี

มวลน้ำที่หลากเข้าอ่างเก็บน้ำของเขื่อนสามผาปริมาณมหาศาล ทำให้ต้องมีการเปิดสปิลเวย์ หรือประตูทางน้ำล้นของเขื่อนสามผา ที่มีถึง 11 บานทั้งหมดเป็นครั้งแรก เพื่อเร่งปล่อยน้ำ ในอัตราสูงถึง 49,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งถือเป็นการปล่อยน้ำในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่สร้างเขื่อนสามผาเลยทีเดียว

ในขณะที่ ทางหน่วยบริหารจัดการเขื่อนสามผา เปิดเผยว่า เขื่อนสามผา สามารถจัดการมวลน้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำได้ถึงในอัตรา 98,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคาดว่าระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนจะสูงถึง 165.5 เมตรในวันเสาร์ที่ 22 ส.ค.นี้ ในขณะที่เขื่อนสามผาสามารถทนต่อการรับแรงดันน้ำในระดับความสูง 175 เมตร

...

ทางการจีน รับรอง เขื่อนสามผา “ไม่แตก” 

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน ได้ออกแถลงการณ์พยายามบรรเทาความหวาดวิตกของประชาชนที่หวาดกลัวเขื่อนสามผาจะแตกจากปริมาณน้ำมหาศาลที่ล้นอ่างเก็บน้ำว่า การก่อสร้างเขื่อนสามผาแห่งนี้ เป็นการก่อสร้างที่ได้มาตรการของการสร้างเขื่อนในระดับสูง และสามารถยืนหยัดต่อมวลน้ำหลากมหาศาลได้

โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หน่วยบริหารจัดการเขื่อนสามผา ได้ดำเนินการระบายน้ำหลากจากแม่น้ำแยงซีที่ไหลมาถึงเขื่อนยักษ์แห่งนี้ และครั้งนี้ถือเป็นมวลน้ำหลากจากแม่น้ำแยงซีที่ไหลมาถึงเขื่อนสามผา ระลอกที่ 5 ของปี และเป็นมวลน้ำระดับสูงสุด

หวั่นเกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดที่เขื่อนสามผา

ท่ามกลางความพยายามในการจัดการน้ำในเขื่อนสามผาที่มีมวลน้ำไหลเข้ามหาศาลนั้น ศาสตราจารย์ Desiree Tullos แห่งมหาวิทยาลัยโอเรกอน ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งศึกษาโครงการเขื่อนสามผาในจีน ได้กล่าวด้วยความกังวลว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่จีนจะต้องทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำล้นสันเขื่อนสามผา เพราะหากระบายน้ำไม่ทัน จนเกิดน้ำล้นสันเขื่อนแล้วละก็ จะถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เนื่องจากจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังสามารถทำให้‘เขื่อนแตก’ทุกอย่างทั้งหมดพังครืนลงได้

...

บททดสอบ เขื่อนสามผา กลางมหาอุทกภัย

สำหรับการเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในจีนปีนี้ของจีน เนื่องจากมีฝนตกตามลุ่มน้ำแยงซี ในปีนี้ สูงกว่าปริมาณฝนเฉลี่ยทุกปีถึง 2 เท่า โดยตามรายงานของทางการจีน เผยว่าอ่างเก็บน้ำของเขื่อนสามผา ได้รองรับปริมาณน้ำมหาศาลจากฝนที่ตกหนักกว่า 100,000 ล้านลูกบาศก์เมตรแล้วในปีนี้ ในขณะที่ โครงการเขื่อนสามผา ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2555 ได้เป็นปราการป้องกันไม่ให้ประชาชนถึง 18.5 ล้านคนต้องอพยพหนีภัยน้ำท่วม นอกจากนั้น โครงการสามผาเพียงอย่างเดียว ได้ช่วยลดมวลน้ำหลากจากน้ำท่วมได้ถึง 34%

อย่างไรก็ตาม สำหรับความเห็นของกลุ่มที่คัดค้านโครงการเขื่อนสามผามาตลอด แย้งว่าการควบคุมศักยภาพของเขื่อนสามผานั้น “มีจำกัด” และอาจทำให้เกิดปัญหาที่เลวร้ายกว่าตามมาในระยะยาว

ซึ่งแน่นอนว่า น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปีนี้ ถือเป็นบททดสอบครั้งสำคัญของ เขื่อนสามผา เขื่อนยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ว่าจะสามารถยืนหยัดเป็นปราการขวางกั้นมวลน้ำมหาศาลได้โดยรอดปลอดภัยหรือไม่...

ผู้เขียน : เวนิส

ที่มา : The Guardian, Reuters  ,Taiwannews