พ่อค้าเนื้อสัตว์ป่าในตลาดสดไนจีเรียนำเนื้อสัตว์ป่ากลับมาขายอีกครั้ง โดยยืนยันไม่กลัวติดโรคโควิด-19 ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องทำความเข้าใจชาวบ้าน

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานวันที่ 20 ส.ค. ว่า ตลาดสดแห่งหนึ่งในรัฐเลกอส ทางตอนใต้ของไนจีเรีย กลับมาเปิดขายอีกครั้งหลังถูกปิดจากมาตรการล็อกดาวน์ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนอกจากอาหารสดที่มีจำหน่ายในตลาดแล้ว ยังมีการนำสัตว์ป่า เช่นตัวนิ่ม งู เต่าและหนู กลับมาขายด้วย

แม้ในตอนนี้จะมีความกังวลจากหลายฝ่ายว่า สัตว์ป่าที่ถูกนำมาขายในตลาดอาจเป็นพาหะนำโรคโควิด-19 จากสัตว์สู่มนุษย์ จนนำไปสู่มาตรการห้ามค้าสัตว์ป่าที่เข้มงวดในหลายประเทศ แต่สำหรับพ่อค้าแม่ค้าเนื้อสัตว์ป่าที่ตลาดแห่งนี้มั่นใจว่า พวกเขาจะไม่ติดโรคโควิด-19 จากเนื้อสัตว์เหล่านี้แน่นอน

คุนเล ยูซาฟ พ่อค้าคนหนึ่งยืนยันว่า เขาไม่กลัวติดโรคโควิด-19 เพราะมั่นใจว่าไม่มีเชื้อโควิด-19 ในเนื้อสัตว์เหล่านี้ และที่ผ่านมาในช่วงที่มีการระบาดก็กินเนื้อสัตว์พวกนี้มาตลอด

...

การเปิดขายเนื้อสัตว์ป่าที่ไนจีเรียทำให้ผู้เชี่ยวชาญกังวล โดย ดร.โอลิเวียร์ เรสทิฟฟ์ นักระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ โดยอาจเน้นการค้าเนื้อสัตว์ที่ปลอดภัยและคำนึงถึงสุขลักษณะเป็นหลัก พร้อมเตือนถึงการออกมาตรการห้ามค้าสัตว์ป่าที่ไม่รอบคอบว่า อาจทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้น เพราะจะเกิดการลักลอบค้าขายสัตว์ป่าแทน

ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลเรื่องนี้ของรัฐบาลไนจีเรียยังไม่ตอบคำถามหรือแสดงความเห็นใดๆ ต่อกรณีนี้ ซึ่งที่ผ่านมาไนจีเรียยังไม่มีมาตรการเชิงรุกที่ชัดเจนในการควบคุมการค้าสัตว์ป่า ส่งผลให้ไนจีเรียกลายเป็นฐานส่งออกสัตว์ป่าผิดกฎหมายมายังประเทศในแถบเอเชีย

ปัจจุบันไนจีเรียพบผู้ป่วยโควิด-19 สะสมอยู่ที่กว่า 50,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เกือบ 1,000 ศพ ขณะที่สถานการณ์การระบาดทั่วโลก พบผู้ป่วยสะสมกว่า 22.6 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 792,000 ราย