ทร.สหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการทดสอบติดตั้งกระเปาะก่อกวนเรดาร์ NGJ-MB รุ่นใหม่กับเครื่องบินอีเอ-18จี โดยจะเอามาทดแทนอุปกรณ์รุ่นเก่า เพื่อรับมือภัยคุกคามยุคดิจิทัล ด้วยการ "ปิดหูปิดตา" ข้าศึก

หลังจากที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เปลี่ยนเครื่องบินสงครามอิเล็กทรอนิกส์ โดยปลดประจำการ อีเอ-6 บี โพรว์เลอร์ (EA-6B Prowler) โดยเป็นการพัฒนาจากเครื่องบินโจมตีแบบ เอ-6 อินทรูเดอร์ ที่มีใช้ในกองทัพเรือ บนเรือบรรทุกเครื่องบิน และฝูงบินนาวิกโยธิน มาตั้งแต่ทศวรรษที่ 70 ช่วงสงครามเย็นมาเป็น อีเอ-18จี โกรว์เลอร์ (EA-18G Growler) ที่พัฒนาต่อยอดจากเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ F/A-18 E/F ซุปเปอร์ฮอร์เน็ต เพื่อรับหน้าที่ในการโจมตีด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกกว่า กระเปาะแจมเมอร์ เพื่อก่อกวนเรดาร์ของข้าศึก รวมทั้งขัดขวางระบบสื่อสารไร้สายแทบจะทุกรูปแบบ

อีเอ-18จี โกรว์เลอร์ ขณะร่อนลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน ภาพโดย U.S. Navy
อีเอ-18จี โกรว์เลอร์ ขณะร่อนลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน ภาพโดย U.S. Navy

...

การที่อีเอ-18จี ถูกพัฒนามาจากเครื่องบินขับไล่ ทำให้ขีดความสามารถและหน้าที่ที่ทำได้มากกว่าเครื่องบินรุ่นเก่า เพราะได้เพิ่มเติมความสามารถปกป้องตัวเอง ด้วยระบบเรดาร์ AESA และระบบเชื่อมโยงข้อมูล (ดาต้าลิงค์) ทำให้สามารถตรวจจับ ติดตามเป้าหมาย และทำลายด้วยอาวุธปล่อยอากาศสู่อากาศ นอกเหนือจากหน้าที่หลัก คือ การกดดันระบบป้องกันภัยทางอากาศ การคุ้มครองฝูงบินด้วยการรบกวนระบบเรดาร์ และการขัดขวางการสื่อสารเครือข่ายไร้สายเหนือพื้นที่การรบ ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่ากระเปาะแจมทางยุทธวิธี (Tactical Jamming System) แบบ ALQ-99 ที่ใช้งานมานานหลายทศวรรษ

กระเปาะ ALQ-99 เป็นอุปกรณ์ระดับตำนาน ที่ติดตั้งเครื่องมือก่อกวนสัญญาณเรดาร์ และระบบสัญญาณสื่อสารเหนือดินแดนข้าศึกขณะที่บินในอากาศ กระเปาะแต่ละอันที่ติดใต้ปีก จะมีใบพัดที่ไว้สำหรับปั่นไฟพร้อมโมดูลส่งสัญญาณ 2 ชุด พร้อมเสาอากาศที่เกี่ยวข้องในการกระจายสัญญาณและช่องเชื่อมต่อสำหรับควบคุมการทำงานโดยลูกเรือ การที่ใช้สถาปัตยกรรมแบบเปิด แยกการทำงานออกเป็นโมดูลของระบบแจมเมอร์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบส่งสัญญาณและเสาสัญญาณในแต่ละช่วงความถี่ให้เหมาะสมกับแต่ละภารกิจได้

อีเอ-18จี โกรว์เลอร์ ติดกระเปาะ ALQ-99  ภาพโดย U.S. Navy
อีเอ-18จี โกรว์เลอร์ ติดกระเปาะ ALQ-99 ภาพโดย U.S. Navy

แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอีกทั้งการพัฒนา ของระบบเรดาร์ และอาวุธต่อต้านอากาศยานต่างก็อัปเกรดเปลี่ยนแปลงไปแบบไม่หยุด เครื่องบินรุ่นใหม่ แต่ยังใช้อุปกรณ์แบบเดิมอาจจะไม่สามารถรับมือภัยคุกคามใหม่ๆ ทร.สหรัฐฯ จึงได้มีโครงการพัฒนากระเปาะแจมเมอร์รุ่นใหม่ นั่นคือ NGJ-MB มันย่อมาจาก Next Generation Jammer Mid-Band ที่เป็นการร่วมกันพัฒนาระหว่างกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และออสเตรเลีย ออกแบบมาเพื่อรับมือกับภัยคุกคามใหม่ มีชื่อรหัสว่า กระเปาะ AN/ALQ-249 เป็นการรวมผสานกันระหว่างอุปกรณ์ดิจิทัล ซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยีเรดาร์ Active Electronically Scanned Array

ภาพกราฟิก อีเอ-18จี โกรว์เลอร์  U.S. Navy
ภาพกราฟิก อีเอ-18จี โกรว์เลอร์ U.S. Navy

ตัวกระเปาะ AN/ALQ-249 NGJ-MB ถูกพัฒนาโดยบริษัท เรธิออน อินเทลิเจนซ์ แอนด์สเปซ มีขีดความสามารถในการรบกวน ลดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศ และก่อกวนการสื่อสารภาคพื้นดิน

...

โดยแบ่งความสามารถเป็น 3 ระดับ ได้แก่ Mid-Band, Low Band และ High Band ทั้งนี้ ล่าสุด ทร.สหรัฐฯ ได้ดำเนินการทดสอบติดตั้งกระเปาะ NGJ-MB ที่เป็นระดับ Mid-Band เพื่อทดลองบินกับ EA-18G แล้ว ส่วนตัว NGJ-LB ที่เป็นตัว Low Band เป็นเฟสต่อไปที่จะเริ่มสัญญาดำเนินการในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ทั้งหมดนี้นับเป็นอีกก้าวของวิวัฒนาการในการทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์

อีเอ-18จี โกรว์เลอร์ ทดสอบการติดตั้งกระเปาะ NGJ-MB ภาพโดย U.S. Navy
อีเอ-18จี โกรว์เลอร์ ทดสอบการติดตั้งกระเปาะ NGJ-MB ภาพโดย U.S. Navy

กัปตันวิลเลียม ออร์ ผู้จัดการโครงการ AEA Systems (PMA-234) กล่าวว่า ในการทดสอบติดตั้ง กระเปาะ NGJ-MB ที่เป็นระดับ Mid-Band เพื่อทดลองบินกับอีเอ-18จี ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ในเที่ยวบินแรกเรามีประจักษ์พยานที่เห็นการบินในเที่ยวบินแรก โดยฝูงบินทดสอบและประเมินค่าที่ 23 (VX-23) ที่สถานีการบินทหารเรือ เพทักเซนต์ ริเวอร์ รัฐแมรี่แลนด์ เพื่อทำให้มั่นใจว่าปลอดภัยต่อการบิน โดยกระเปาะ NGJ-MB มีการพัฒนาและตรวจสอบมากว่า 4 ปี รวมทั้งความพยายามในการเตรียมพร้อมเพื่อให้ได้ขึ้นบินในอีกหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกภูมิใจกับทีมงาน รัฐบาล และคนที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม

...

“ที่ผ่านมาเรามีการพูดคุยถกเถียงกันมากว่า เมื่อเครื่องบิน EA-18G ติดกระเปาะ NGJ-MB จะเกิดอะไรบ้าง โดยพบว่าขณะบินให้ความรู้สึกไม่ต่างไปจากเที่ยวบินอื่นๆ ก่อนหน้า เรามีทีมที่ยอดเยี่ยมทำงานร่วมกัน ต้องขอบคุณพวกเขาที่สามารถทำให้เกิดวันนี้ได้ และแน่นอนว่ามันมีโอกาสมากที่อนาคตจะได้เห็นโกรว์เลอร์บินไปกับกระเปาะรุ่นใหม่เหล่านี้” เรือเอกโจนาธาน วิลเลียมส์ นักบินทดสอบ กล่าว 

อีเอ-18จี โกรว์เลอร์ ติดกระเปาะ NGJ-MB และขีปนาวุธต่อต้านเรดาร์ HARM ภาพโดย U.S. Navy
อีเอ-18จี โกรว์เลอร์ ติดกระเปาะ NGJ-MB และขีปนาวุธต่อต้านเรดาร์ HARM ภาพโดย U.S. Navy

นี่เป็นอีก 1 ก้าวย่างของผู้นำในด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้ขยับอัปเกรดเขี้ยวเล็บใหม่ ให้ทรงอานุภาพมากขึ้นเพื่อรับมือต่อภัยคุกคามที่จะมีต่อฝูงบินกองทัพสหรัฐฯ ปฏิเสธไม่ได้ว่า หนึ่งในกุญแจของความสำเร็จในสงครามและการใช้กำลังทหารอากาศของสหรัฐฯ เพื่อโจมตีตามสมรภูมิ หรือการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายที่ผ่านมา ฝูงบินสงครามอิเล็กทรอนิกส์ถือเป็นผู้ปิดทองหลังพระ ที่อยู่เบื้องหลังของการลดความสูญเสียเครื่องบิน จากขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานพื้น-สู่-อากาศ จากฝ่ายตรงข้าม นับตั้งแต่สงครามเวียดนาม สงครามอ่าวเปอร์เซีย ความขัดแย้งในยุโรปตะวันออก สงครามปราบผู้ก่อการร้ายในอัฟกานิสถาน และการสู้รบในตะวันออกกลาง 

...

น่าจับตาดูว่า หลังจากนี้ไม่ได้มีแต่สหรัฐฯ ที่มีอุปกรณ์สงครามอิเล็กทรอนิกส์ รัสเซีย และจีน ก็มีการพัฒนาระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นมาใช้เองเช่นกัน รวมทั้งยังปรับปรุงระบบต่อต้านอากาศยานให้ทนทานต่อการก่อกวนทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ดีกว่าเดิมด้วย ซึ่งผู้เขียนจะได้มีโอกาสนำเสนอในโอกาสต่อไป.

จุลดิส รัตนคำแปง