บราซิลมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 มากกว่า 100,000 ศพแล้ว สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก ขณะที่การระบาดยังคงรุนแรงในภาคใต้และตะวันตก
สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันอาทิตย์ที่ 9 ส.ค. 2563 ว่า กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศแล้ว 3,012,412 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 100,477 ศพ นับว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกทั้งในแง่ของยอดผู้ป่วยและเสียชีวิต เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา
คาดกันว่า แนวโน้มการระบาดในบราซิลยังไม่ถึงจุดสูงสุด โดยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ความเร็วการแพร่กระจายของเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่แถบชนบท โดยเฉพาะในรัฐทางใต้และตะวันตก ขณะที่สถานการณ์ในนครเซา เปาลู เมืองซึ่งมีประชากรมากที่สุดในประเทศ เริ่มดีขึ้น

...
ขณะเดียวกัน อัตราการติดเชื้อในรัฐทางเหนือเริ่มลดลง เช่นที่รัฐ อามาโซนัส ซึ่งเคยเป็นจุดศูนย์กลางการระบาดในช่วงแรก และรัฐ ริโอ เด จาเนโร ซึ่งเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากออกมารวมตัวกันที่บาร์และชายหาด จนทำให้ผู้เชี่ยวชาญออกมาแสดงความไม่พอใจ เนื่องจากอาจทำให้ไวรัสกลับมาระบาดอีกครั้ง
นอกจากนี้ ไวรัสโคโรนายังเล่นงานประชากรผิวดำและชุมชนยากจนในสลับของบราซิลหนักเป็นพิเศษ ท่ามกลางความกังวลว่า ไวรัสยังคงแพร่กระจายในกลุ่มชนพื้นเมือง ซึ่งเสี่ยงภัยจากโรคมากกว่าคนกลุ่มอื่นเนื่องจากไม่มีภูมิคุ้มกัน โดยจนถึงตอนนี้มีชนพื้นเมืองติดเชื้อโควิด-19 อย่างน้อย 22,300 ราย เสียชีวิต 633 ศพ
ทั้งนี้ การรับมือไวรัสโควิด-19 ของบราซิลถูกโจมตีอย่างหนักจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก โดยพวกเขาเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาแล้วถึง 2 ครั้ง เนื่องจากนโยบายขัดแย้งกับประธานาธิบดี ชาอีร์ โบลโซนาโร ที่ไม่สนับสนุนมาตรการเว้นระยะห่าง ขณะที่รัฐมนตรีคนปัจจุบันเป็นนายพลของกองทัพ ไม่มีประสบการด้านสาธารณสุขเลย

นายโบลโซนาโรปฏิเสธความรุนแรงของโควิด-19 มาตั้งแต่ต้น ต่อต้านมาตรการควบคุมไวรัสของผู้ว่าการรัฐต่างๆ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และออกไปร่วมชุมนุมกับผู้สนับสนุนโดยไม่สวมหน้ากากป้องกันหลายครั้ง จนกระทั่งตัวติดเชื้อไวรัสโคโรนา ก่อนจะหาป่วยใน 2 สัปดาห์ต่อมา ซึ่งเขาอ้างว่า ใช้ยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน รักษา ทั้งที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่าใช้ได้จริง แต่มีผลวิจัยชี้ว่า ยานี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง
ปัจจุบัน ทางการท้องถิ่นในบราซิลเริ่มมุ่งเน้นเรื่องการเริ่มเดินเครื่องเศรษฐกิจใหม่อีกครั้ง โดยกลับมาเปิดร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่า การเปิดเศรษฐกิจโดยไม่มีแผนรองรับจากรัฐบาล อาจทำให้ไวรัสแพร่กระจายมากขึ้นได้
อนึ่ง ยอดผู้ติดเชื้อในบราซิลคิดเป็นเกือบ 50% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในภูมิภาคลาตินอเมริกากับแคริบเบียนรวมกัน โดยประเทศอื่นๆ ที่โควิด-19 ระบาดหนักคือเม็กซิโก ซึ่งมีผู้ติดเชื้อราว 476,000 รายสูงที่สุดอันดับ 6 ของโลก แต่มีผู้เสียชีวิตถึง 52,000 ศพเป็นรองเพียงสหรัฐฯ กับบราซิล ตามด้วย เปรู, โคลอมเบีย และชิลี
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ไวรัสระบาดหนักในประเทศเหล่านี้คือ การอยู่อาศัยอย่างแออัดเกินไปในเมืองต่างๆ, ความยากจน และระบบสาธารณสุขที่มีอุปกรณ์ไม่พร้อม