สถานการณ์ข่าวต่างประเทศรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 28 ก.ค.-2 ส.ค.63 การระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา ยังแรงต่อเนื่อง ขณะที่หลายประเทศ ทั้งญี่ปุ่น เวียดนาม จีน ต้องเผชิญกับการระบาดรอบใหม่ 

  • สหรัฐฯ อ่วม หลายประเทศเอเชียเจอโควิดระบาดรอบใหม่

ชาวอเมริกันยังต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่นอกจากจะไม่มีทีท่าจะทุเลาลงแล้ว แต่การติดเชื้อกลับยังรุนแรงมากขึ้น โดยจนถึงวันที่ 2 ส.ค.63 ยอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในสหรัฐอเมริกาได้พุ่งทะยานขึ้นไปอยู่ที่กว่า 4.6 ล้านราย และเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 154,449 ศพ จากยอดสะสมผู้ติดเชื้อทั่วโลก 17.8 ล้านราย และเสียชีวิต 6.85แสนศพ

นอกจากนั้น หลายประเทศ โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย ทั้งญี่ปุ่น เวียดนาม จีน รวมทั้งฮ่องกง ต้องเผชิญกับสถานการณ์เชื้อโควิด-19 หวนกลับมาระบาดหนักอีกรอบ โดยญี่ปุ่น กำลังเผชิญกับการระบาดของเชื้อโควิด-19 รุนแรงกว่ารอบแรก โดยพบผู้ติดเชื้อเกินกว่า 1,000 รายต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 และเมื่อวันเสาร์ที่ 1 ส.ค.พบผู้ติดเชื้อถึง 1,532 ราย จนทำให้ยอดสะสมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 38,571 ราย ในจำนวนนี้ รวมทั้งผู้โดยสารบนเรือสำราญไดมอนด์ ปริ๊นเซส ที่ถูกกักกันตัวบนเรือ และพบว่าติดเชื้อ 700 ราย เมื่อเดือน ก.พ. 63 ขณะที่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ในญี่ปุ่นแล้ว 1,026 ศพ

ทางการเวียดนามสั่งอพยพนักท่องเที่ยวราว 8 หมื่นคนออกจากเมืองดานังกลับภูมิลำเนาทันที หลังพบผู้ติดเชื้อในเมืองและรอบเมืองดานัง
ทางการเวียดนามสั่งอพยพนักท่องเที่ยวราว 8 หมื่นคนออกจากเมืองดานังกลับภูมิลำเนาทันที หลังพบผู้ติดเชื้อในเมืองและรอบเมืองดานัง

...

ส่วนที่ เวียดนาม ปรากฏว่าศูนย์กลางการระบาดครั้งใหม่ อยู่ที่เมืองดานัง เมืองตากอากาศชื่อดังของประเทศ จนต้องสั่งอพยพนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามราว 80,000 คน กลับภูมิลำเนาทันทีเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ขณะที่ทางการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์คุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาใหม่อีกรอบ

นอกจากนั้น สถิติไม่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ในเวียดนามได้ถูกลบลง เมื่อมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคโควิดรายแรกที่เมืองดานัง เมื่อ 31 ก.ค. ก่อนที่ตามข้อมูลอัปเดตสถานการณ์โควิด-19 ในเวียดนาม ระบุมีผู้เสียชีวิตจากโควิดแล้ว 5 ศพ และยอดสะสมผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 590 ราย

ด้านจีน กำลังเผชิญกับการระบาดของเชื้อโควิด-19 ในหลายภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะในเขตปกครองซินเจียงอุยกูร์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมอุยกูร์ รองลงมา คือ ที่เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง อีกทั้งยังพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในกรุงปักกิ่งด้วย

ส่วนฮ่องกง ก็กำลังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกสาม โดยยืนยันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 125 ราย ซึ่งถือเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดบนเกาะฮ่องกง นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 จนทำให้ทางการฮ่องกงประกาศมาตรการคุมเข้มป้องกันโควิด-19 มากขึ้น จนถึงขั้นห้ามพบปะรวมตัวกันเกินกว่า 2 คน

จีนปิดสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาในเมืองเฉิงตู
จีนปิดสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาในเมืองเฉิงตู
  • จีน-สหรัฐฯ ตึงเครียด ลามถึงขั้นปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเฉิงตู

‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ เป็นมาตรการที่รัฐบาลจีนใช้ตอบโต้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา อย่างทันควัน ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่ ได้บานปลายมาถึงขั้นปิดสถานกงสุลกันเป็นครั้งแรก

โดยรัฐบาลจีนได้สั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน เมื่อวันที่ 24 ก.ค. เพื่อเป็นการตอบโต้อย่างดุเดือดที่รัฐบาลทรัมป์ สั่งปิดสถานกงสุลจีน ในเมือง  ฮิวสต์ตัน รัฐเทกซัส ด้วยข้อหาเกี่ยวโยงกับการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐอเมริกาก่อนหน้า

อีกทั้งจีนยังให้เวลาเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 72 ชั่วโมงในการเก็บข้าวของออกไปจากสถานกงสุลที่จะถูกปิดในวันที่ 27 ก.ค.63 เท่ากับที่สหรัฐฯให้เวลาจีนเช่นกัน

นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย
นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

...

  • คุก 12 ปี นาจิบ ราซัค อดีตนายกฯ มาเลเซีย

และแล้ว นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วัย 67 ปี ต้องเครียดหนักกว่าเดิม เมื่อศาลสูงในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้ตัดสินคดีแรกกี่ยวกับการทุจริตกองทุนอื้อฉาว ‘1MDB’ ของ นายนาจิบ ราซัค เมื่อวันที่ 28 ก.ค.63 ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีบริษัท ‘SRC International’ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกองทุน 1MDB ได้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบ เป็นเงินรวมแล้ว 42 ล้านริงกิต (ประมาณ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ) ระหว่างปี 2552-2557

ศาลสูงในกรุงกัวลาลัมเปอร์ได้ตัดสิน นายนาจิบ กระทำความผิดทุกข้อหา รวม 7 ข้อกล่าวหา ทั้งฟอกเงิน, ละเมิดความไว้วางใจ และใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ โดยได้สั่งลงโทษจำคุก 12 ปี และปรับเงินอีก 210 ล้านริงกิต หรือราว 1,550 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายนาจิบ ซึ่งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหามาตลอด บอกว่าจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินต่อรัฐบาลกลางต่อไป

ทั้งนี้ นายนาจิบ ราซัค จากพรรคอัมโน ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตในจำนวนบุตร 6 คนของนายอับดุล ราซัค ฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของมาเลเซีย ได้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ระหว่างปี 2552-2561 แต่ต้องพ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ในปี 2561 ก่อนต่อมา นายนาจิบต้องเผชิญกับวิบากกรรม เกี่ยวกับการทุจริตมโหฬาร กองทุน 1MDB โดยถูกฟ้องดำเนินคดีถึงอย่างน้อย 32 กระทง ที่เกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินจากกองทุน 1MDB กว่า 4,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 141,975 ล้านบาท)