สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกายังคงวิกฤติอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ "หมอใหญ่"ในสหรัฐฯ ต้องออกมาร้องขอให้คนรุ่นใหม่หยุดแพร่เชื้อไวรัส
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า นายแพทย์ แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อในสหรัฐฯ ได้ออกมาขอร้องให้ประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ให้อย่าประมาทต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพราะอาจจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง และเชื้อแพร่กระจายมากขึ้น โดยนายเฟาซีได้กล่าวว่า ในคลื่นการแพร่ระบาดลูกที่สอง อายุเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อลดลงมา 15 ปี เนื่องจากคนรุ่นใหม่ไม่ยอมเว้นระยะห่างทางสังคม
โดยนายแพทย์เฟาซีกล่าวในขณะกำลังพูดคุยกับ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กว่า เป็นความรับผิดชอบของทุกคนที่จะต้องดูแลตนเองและสังคม เพราะหากประชาชนติดเชื้ออาจจะทำให้ไวรัสแพร่ระบาดมากขึ้น ซึ่งนายเฟาซีกล่าวว่า เขาเข้าใจถึงความต้องการของวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ที่อยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และคิดว่าสิ่งที่ตนทำไม่ได้สร้างอันตรายให้กับสังคม แต่ประชาชนอาจจะมีเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 อยู่ในร่างกายโดยไม่แสดงอาการ และแพร่เชื้อให้กับคนอื่นได้
นายแพทย์เฟาซี ยอมรับว่า เขาไม่เคยเห็นโรคไหนที่มีอาการแตกต่างกันขนาดนี้มาก่อน เพราะประชาชนอาจจะมีอาการเพียงเล็กน้อย บางคนอาจจะมีอาการมากพอที่จะทำให้ประชาชนต้องพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน บางคนอาจจะต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล และอาการที่รุนแรงที่สุดคือเสียชีวิต
ขณะนี้ประเทศสหรัฐอเมริกามียอดผู้ป่วยสะสมเกือบ 3,700,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วอย่างน้อย 140,000 ศพ โดยสหรัฐอเมริกาถือเป็นชาติที่มียอดผู้ป่วยสะสมมากที่สุดในโลก.
...