แคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ของญี่ปุ่นต้องสะดุด หลังเมืองหลวงอย่างโตเกียวยังคุมการระบาดโควิด-19 ไม่ได้
โครงการกระตุ้นการท่องเที่ยว โกทู (Go To) ของกระทรวงการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อสนับสนุนให้ชาวญี่ปุ่นเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่เตรียมจะเริ่มโครงการในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้ ต้องชะงักลงชั่วคราว หลังมีเสียงทักท้วงจากหลายฝ่าย ที่ไม่แน่ใจกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศ ส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องเร่งหาแนวทางที่เหมาะสม เพื่อเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กับการควบคุมโรค

นายคาสึโยชิ อะกาบะ รัฐมนตรีคมนาคมของญี่ปุ่นระบุว่า ทางรัฐบาลกำลังเร่งหารือกับผู้เชี่ยวชาญถึงแนวทางที่จะกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวอย่างไร โดยไม่ให้มีการเดินทางเข้าและออกจากโตเกียว เพื่อไม่ให้การระบาดลุกลาม เช่นเดียวกับ นายยาสึโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจที่เข้าพบหารือกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อกำหนดเงื่อนไขของมาตรการด้วยความระมัดระวัง หลังจากที่ นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ขอให้ทบทวนช่วงเวลาที่จะเริ่มแคมเปญ รวมทั้งขอให้พิจารณาวิธีการที่เหมาะสม ว่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยวตามแคมเปญนี้อย่างไร โดยไม่ให้เกิดการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก เนื่องจากยังกังวลต่อสถานการณ์การระบาดในกรุงโตเกียว หลังเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มในกรุงโตเกียวอีก 286 ราย
...
ด้าน ส.ส.ฝ่ายค้านยังคงแสดงความกังวลต่อการระบาดในกรุงโตเกียว ที่อาจจะแพร่ไปยังพื้นที่ใกล้เคียง และร้องขอให้พิจารณาเลื่อนแคมเปญนี้ออกไป หรือให้จำกัดใช้แคมเปญเฉพาะในภูมิภาคที่สถานการณ์ดีขึ้นแล้วเท่านั้น
ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาจนถึงเดือนมิถุนายน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวญี่ปุ่นไม่ถึง 4 ล้านคน คิดเป็นเพียง 1 ใน 10 จากเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ 40 ล้านคนต่อปี ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องหวังพึ่งรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศเข้ามาช่วย โดยแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณโดยรัฐบาลญี่ปุ่นมากถึงร้อยละ 50 คิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงค่าที่พักและค่าเดินทาง นอกจากนี้ยังมีส่วนลด และมีการแจกคูปองแลกอาหารหรือซื้อสินค้าในที่พัก เพื่อหวังกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ช่วยพยุงโรงแรมและอุตสาหกรรมต่างๆ ในภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19.