เศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัว ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เติบโต 3.2% หลังปลดล็อกโควิด-19 แต่การบริโภคและลงทุนในประเทศยังคงอ่อนกำลัง ธุรกิจการบินอ่วม ขาดทุนมหาศาลกว่า 1 แสนล้าน
เมื่อ 16 ก.ค.63 สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน เผยเศรษฐกิจของจีนในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 63 ได้กลับมาฟื้นตัว หลังจากในช่วงไตรมาสแรกของปีต้องประสบกับภาวะเศรษฐกิจหดตัวอย่างหนักจากสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 แพร่ระบาด ทว่าทางการจีนสามารถควบคุมการระบาดได้สำเร็จ และสามารถกลับมาเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศได้อีกครั้ง
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนในช่วงไตรมาส 2 เติบโตขึ้น 3.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนชี้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 ของจีน เร็วกว่าการคาดการณ์ของรอยเตอร์ โพล 2.5% อันเป็นผลมาจากจากการรัฐบาลจีนประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ อันเนื่องมาจากควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสมรณะได้สำเร็จ และรัฐบาลได้ใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่หดตัวอย่างหนักในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563

...
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ GDP ของจีนเติบโตขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 แต่การบริโภคภายในประเทศและการลงทุนในประเทศจีนยังคงอ่อนกำลัง เนื่องจากวิกฤติโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างหนัก จำเป็นต้องการนโยบายกระตุ้นมากขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจของจีนกลับมาแข็งแกร่ง
ด้านบริษัท Wanda Flim บริษัทธุรกิจโรงภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ในจีน ที่มีสาขามากกว่า 600 โรงในประเทศ แถลงผลประกอบการว่าในไตรมาส 2 ของปีนี้ บริษัท Wanda Flim ขาดทุนสุทธิเป็นเงินถึง 1,500-1,600 ล้านหยวน หลังจากเกิดวิกฤติโควิด-19 จนทำให้ต้องปิดโรงภาพยนตร์ เมื่อเทียบกับช่วงเลาเดียวกันของปีก่อน ที่บริษัทมีกำไรสุทธิถึง 524 ล้านหยวน
ส่วนธุรกิจสายการบินที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤติโควิด-19 ระบาดนั้น สำนักงานบริหารการบินพลเรือนของจีน เผยว่า อุตสาหกรรมการบินของจีน ขาดทุนในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2563 เป็นเงินถึง 32,450 ล้านหยวน หรือประมาณ 1.46 แสนล้านบาท (คิดในอัตราแลกเปลี่ยน 1 หยวน เท่ากับ 4.53 บาท).
ที่มา : reuters