การประกาศระงับใช้อุปกรณ์ 5G ของ Huawei โดยรัฐบาลอังกฤษ ทำให้เกิดเป็นคำถามว่า อุปกรณ์ของ Huawei ไม่ปลอดภัยจริง หรือเป็นแค่เหยื่อความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีน

อุปกรณ์ 5G ของ Huawei บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีน กำลังเผชิญกับอุปสรรคอีกครั้ง หลังจากที่ล่าสุดรัฐบาลอังกฤษสั่งระงับการใช้อุปกรณ์ของ Huawei โดยอ้างความกังวลว่า อุปกรณ์ของ Huawei จะเป็นช่องทางให้ข้อมูลต่างๆ ในอังกฤษรั่วไหลไปถึงมือรัฐบาลจีน

โดยรัฐบาลอังกฤษกำหนดให้ผู้พัฒนาเครือข่ายให้ยุติการซื้ออุปกรณ์จาก Huawei ภายในสิ้นปีนี้ และต้องถอดอุปกรณ์ของ Huawei ทั้งหมดที่ติดตั้งไปแล้วภายในปี 2570

การแบน Huawei ครั้งนี้ เป็นการกลับลำครั้งสำคัญของรัฐบาลอังกฤษ หลังจากเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษเพิ่งอนุญาตให้ใช้อุปกรณ์ 5G ของ Huawei ได้ในวงจำกัด ซึ่งอาจทำให้การพัฒนาเครือข่าย 5G ในอังกฤษช้าลงไปอีก 1 ปี และค่าบริการเครือข่าย 5G ในประเทศอาจสูงขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่เพิ่มขึ้น

  • สหรัฐฯ ชักใยอังกฤษแบน Huawei

นายโอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีวัฒนธรรมและดิจิทัลของอังกฤษ ให้ข้อมูลต่อสภาโดยระบุว่า การแบนอุปกรณ์ 5G ของ Huawei ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่าย แต่เชื่อว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องต่อทั้งเครือข่ายโทรคมนาคม ความมั่นคงและเศรษฐกิจของอังกฤษเอง

นายโอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีวัฒนธรรมและดิจิตอลของอังกฤษ
นายโอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีวัฒนธรรมและดิจิตอลของอังกฤษ

...

รัฐมนตรีอังกฤษยอมรับต่อสภาว่า ตัวแปรสำคัญที่ทำให้รัฐบาลอังกฤษกลับลำ มาจากการประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงข่าวหลังอังกฤษประกาศแบนอุปกรณ์ 5G ของ Huawei ว่า นี่คือผลจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ผลักดันมาตลอด คือการเรียกร้องให้นานาชาติไม่ใช้อุปกรณ์ของ Huawei เพราะไม่ปลอดภัย

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุเป็นผลงานของสหรัฐฯ ในการผลักดันให้อังกฤษแบนอุปกรณ์ 5G ของ Huawei
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุเป็นผลงานของสหรัฐฯ ในการผลักดันให้อังกฤษแบนอุปกรณ์ 5G ของ Huawei

โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการสื่อสารแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) เพิ่งประกาศให้ Huawei เป็นภัยความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ พร้อมประกาศว่า Huawei มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับรัฐบาลจีน และกำลังทำหน้าที่ด้านข่าวกรองให้กับประเทศจีน

  • ปฏิกิริยาโต้กลับจากจีนและ Huawei

ข้อกล่าวหาของรัฐบาลสหรัฐฯ ถูกบริษัท Huawei และรัฐบาลจีนปฏิเสธมาตลอด โดยจากกรณีล่าสุดที่อังกฤษออกคำสั่งแบนอุปกรณ์ 5G ของ Huawei ก็มีปฏิกิริยาจาก Huawei และรัฐบาลจีนออกมาทันที

นายเจเรมี ทอมป์สัน รองประธาน Huawei ในอังกฤษ แสดงความผิดหวังอย่างมากต่อการตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษ พร้อมชี้ว่านี่เป็นความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการสกัดคู่แข่งที่พัฒนาเทคโนโลยีไปได้ไกลกว่า

ขณะที่ท่าทีจากรัฐบาลจีน ออกมาโจมตีรัฐบาลอังกฤษอย่างรุนแรง โดยกล่าวหาว่า อังกฤษเป็นเพียงเครื่องมือที่รัฐบาลสหรัฐฯ หลอกใช้ และรัฐบาลจีนจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องผลประโยชน์บริษัทสัญชาติจีน ซึ่งอังกฤษจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนจากการตัดสินใจในครั้งนี้

  • Huawei กำลังเป็นเครื่องมือตอบโต้จีน

แม้จะมีเหตุผลด้านความปลอดภัยและความกังวลข้อมูลสำคัญรั่วไหล แต่ในอีกมุมหนึ่ง กรณี Huawei อาจไม่รุนแรงถึงขั้นนี้ ถ้าไม่มีกรณีอื่นที่มีความกังวลจากชาติตะวันตกมาผสมโรงด้วย เช่น การละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวมุสลิมอุยเกอร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ไปจนถึงการออกกฎหมายความมั่นคงคุมฮ่องกง ที่ถูกมองว่าจะเป็นจุดอวสานการปกครองแบบหนึ่งประเทศสองระบบ ซึ่งล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่งลงนามคำสั่งยุติการให้สถานะพิเศษทางการค้าต่อฮ่องกงเพื่อตอบโต้การใช้กฎหมายดังกล่าวแล้ว

...

  • อังกฤษอาจแบน Huawei ไม่จริง

แม้รัฐบาลอังกฤษจะออกประกาศห้ามใช้อุปกรณ์ 5G ของ Huawei มาแล้ว แต่ก็มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลอังกฤษอาจไม่ได้เอาจริงเอาจังกับการแบน Huawei มากนัก

โจนาทาน อาร์นอตต์ อดีตสมาชิกรัฐสภายุโรป เขียนบทความลงในเว็บไซต์ CGTN ซึ่งเป็นสื่อโทรทัศน์ของทางการจีน ชี้ให้เห็นถึงคำสั่งห้ามซื้ออุปกรณ์ 5G ของ Huawei ที่ไม่ได้มีผลทันที แต่จะเริ่มมีผลช่วงปลายปี ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่า นับตั้งแต่ตอนนี้ไปจนถึงสิ้นปี ผู้ให้บริการเครือข่ายยังสามารถซื้ออุปกรณ์จาก Huawei ได้อยู่

ขณะเดียวกันมาตรการอีกข้อหนึ่งที่กำหนดให้ผู้ให้บริการต้องถอดอุปกรณ์ 5G ของ Huawei ภายในปี 2570 ในอีกมุมหนึ่งอาจหมายความว่า ผู้ให้บริการยังมีเวลาถึงราว 7 ปีครึ่ง ซึ่งนายอาร์นอตต์ชี้ว่า กว่าจะถึงตอนนั้นเทคโนโลยีก็คงจะไปไกลกว่า 5G แล้ว นอกจากนี้ภายใต้คำสั่งแบนของอังกฤษ ยังไม่ได้ห้ามการใช้อุปกรณ์ของ Huawei ในเครือข่าย 3G และ 4G ที่มีอยู่แล้วด้วย

ที่มา CNA, BBCCGTN, Sky News

...