นับถอยหลัง UAE ส่งยานสำรวจดาวอังคารสัปดาห์หน้า ย้อนรอยความพร้อมของอภิมหาโปรเจกต์การพัฒนาชาติอาหรับสู่ห้วงอวกาศ
สำนักงานอวกาศแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เตรียมส่งยานอวกาศ "อัล อะมาล" (Al Amal) ภาษาอาหรับที่มีความหมายว่า "ความหวัง" ไปโคจรรอบดาวอังคารเพื่อทำการสำรวจแล้วส่งข้อมูลกลับมายังโลก โดยจรวดของญี่ปุ่นที่บรรทุกยานอัล อะมาล จะถูกปล่อยออกจากฐานปล่อยจรวดบนเกาะทาเนกะชิมาของญี่ปุ่น ในวันพุธที่ (15 ก.ค.63)
นับเป็นโครงการอวกาศแรกของชาติอาหรับที่ซึ่งทาง UAE ประกาศออกมาเมื่อปี 2557 โดยวิศวกรของโครงการระบุว่า ปกติแล้วโครงการแบบนี้จะใช้เวลาเป็น 10 ปีในการเตรียมความพร้อม แต่ UAE สามารถออกแบบ พัฒนา ผลิตเทคโนโลยี และทดสอบเรียบร้อยภายใน 6 ปี โดยระบุว่า "อัล อะมาล" เป็นยานอวกาศแบบไร้คนขับ ติดตั้งอุปกรณ์สำคัญเพื่อการสำรวจชั้นบรรยากาศ อุปกรณ์ถ่ายภาพ อุปกรณ์ตรวจวัดแสงอินฟาเรด และอุปกรณ์วัดแสงอัลตราไวโอเลต ซึ่งจะให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อความเข้าใจชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร โดยจะมีการนำข้อมูลมาทำการพัฒนาแผนที่สภาพอากาศบนดาวอังคารขนาดเท่าของจริง ที่ลงลึกในรายละเอียดมากกว่าภาพถ่ายทั่วไป เนื่องจากสภาพอากาศเป็นระบบที่เกิดขึ้นและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

...
เดินทางไกลสู่ดาวแดง
ยานอัล อะมาล จะใช้เวลา 7 เดือน ในการเดินทาง 493 ล้านกิโลเมตร คาดว่าจะไปถึงดาวอังคารประมาณต้นปี 2564 จากนั้นจะเข้าสู่วงโคจร แล้วเริ่มการโคจรรอบดาวอังคารเป็นเวลา 687 วัน ซึ่งเท่ากับ "1 ปีของดาวอังคาร" เนื่องจากการโคจรรอบดาวอังคาร 1 รอบ ใช้เวลาถึง 55 ชั่วโมง
หัวหน้าโครงการระบุว่า ความยากของภารกิจนี้คือการที่ยาน "อัล อะมาล" เดินทางด้วยความเร็ว 121,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่เมื่อไปถึงแล้วจะต้องใช้จรวดเพื่อชะลอความเร็วลงมาอยู่ที่ 18,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะเข้าสู่วงโคจรของดาวอังคาร ซึ่งทุกอย่างจะต้องมีความแม่นยำอย่างมากเมื่อหักลบความล่าช้า 12-20 นาทีของระบบการสื่อสารระหว่างยานกับศูนย์ควบคุมบนโลก
การสำรวจดาวอังคารนับเป็นภารกิจที่มีความยากและท้าทายสำหรับหลายประเทศ ตลอดช่วงเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา มีเพียงครึ่งหนึ่งของความพยายามทั้งหมดที่ประสบความสำเร็จ บ้างก็ล้มเหลวระหว่างการปล่อยขึ้นจากพื้นผิวโลก บ้างก็้ลมเหลวระหว่างการเข้าสู่วงโคจรดาวอังคาร ปัจจุบันมียานกำลังปฏิบัติภารกิจบนพื้นผิวและในวงโคจรดาวอังคาร จำนวน 7 ลำ หากโครงการส่งยาน "อัล อะมาล" ประสบความสำเร็จด้วยดีตามแผนการ ชาติอาหรับจะได้ร่วมเป็นหนึ่งกลุ่มไม่กี่ประเทศที่เคยประสบความสำเร็จในการสำรวจดาวอังคาร ได้แก่ สหรัฐฯ, อดีตสหภาพโซเวียต, สหภาพยุโรป และอินเดีย ขณะที่จีนตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะส่งยานสำรวจดาวอังคารในปีหน้า
ฝันให้ไกลไปให้ถึง
นับเป็นความทะเยอทะยานอย่างมากของชาติอาหรับในการออกไปสำรวจอวกาศ เนื่องจากสำนักงานอวกาศ UAE เพิ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2557 เท่านั้น แม้ว่าการสำรวจอวกาศจะถูกบรรจุลงในแผนพัฒนาประเทศระยะ 50 ปีฉบับล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นอกจากนี้ สำนักงานอวกาศ UAE เปิดเผยว่า ยังมีแผนส่งคนไปตั้งถิ่นฐานดำรงชีวิตอยู่บนดาวอังคารในปี พ.ศ.2660 หรือในอีก 97 ปีข้างหน้า
ผู้อำนวยการโครงการสำรวจดาวอังคารของ UAE ระบุว่า โครงการนี้ตั้งเป้าเก็บข้อมูลใหม่ของดาวอังคาร และส่งเสริมอาชีพด้านวิศวกรรมอวกาศตลอดจนงานวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชนอาหรับ
ประธานาธิบดีเคาะลีฟะฮ์ บิน ซายิด อัลนะฮ์ยาน ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เปิดเผยว่า โครงการสำรวจดาวอังคารของ UAE นับเป็นความหวังของชาติอาหรับทุกประเทศในการเข้าสู่ยุคแห่งการสำรวจอวกาศ โดย UAE จะแสดงให้เห็นถึงความมีศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์เพื่อมวลมนุษยชาติ.
Cr ภาพ: UAE Space Agency