เม็กซิโกค้นพบเหมืองเก่า 10,000-12,000 ปีก่อนคริสตกาล ซ่อนตัวในอยู่ในถ้ำชิโนเต้ ที่เป็นถ้ำใต้น้ำแถบคาบสมุทรยูคาทาน เป็นหลักฐานมนุษย์รู้จักการทำเหมืองตั้งแต่สมัยโบราณ 

เมื่อวันที่ 4 ก.ค.63 นักวิจัยด้านโบราณคดีจากศูนย์วิจัยระบบชั้นหินอุ้มน้ำแห่งควินทานารู (Research Center for the Aquifer System of Quintana Roo) หรือ CINDAQ และนักประดาน้ำในเม็กซิโก ค้นพบเหมืองดินเหลืองโบราณ อายุเก่าแก่ประมาณ 10,000-12,000 ปีก่อนคริสตกาล ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำชิโนเต้ ซึ่งอยู่ใต้น้ำ ในบริเวณคาบสมุทรยูคาทาน โดยเชื่อว่าเป็นเหมืองแร่เก่าแก่ที่สุดในทวีปอเมริกา

ภายในเหมืองมีการค้นพบเครื่องมือแบบโบราณ ทำจากหินแบบง่ายๆ ที่ยังอยู่ในสภาพดี นอกจากนี้ยังพบคบไฟ และร่องรอยไหม้สีดำบนเพดานถ้ำ และพบโครงกระดูกบริเวณภายในถ้ำที่มีความซับซ้อน แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ในยุคโบราณ มีการเข้าไปทำเหมืองแร่ดินเหลืองสีแดงอุดมไปด้วยเหล็ก ซึ่งคนในยุคโบราณแถบอเมริกาใช้ตกแต่งผนังถ้ำ ตกแต่งหินทำเครื่องประดับและประกอบพิธีตามความเชื่อ

...

อย่างไรก็ตาม การค้นพบครั้งนี้ยังเป็นที่มาของซากโครงกระดูกมนุษย์โบราณที่นักโบราณคดีพบตลอด 15 ปีที่ผ่านมาในบริเวณถ้ำใต้น้ำหลุมยุบที่มีความแคบและสลับซับซ้อนแบบเขาวงกต หนึ่งในนั้นคือ "ไนอา" ซากโครงกระดูกหญิงสาววัยรุ่นที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปอเมริกาอายุมากกว่า 13,000 ปีถูกค้นพบเมื่อ 7 ปีก่อน แต่ก่อนหน้านี้นักโบราณคดียังไม่แน่ใจว่ามนุษย์โบราณกลุ่มนี้เข้าไปในถ้ำเพื่ออะไร

โดยเมื่อประมาณ 8,000 ปีก่อนระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นจนท่วมถ้ำแห่งนี้จมมิดใต้ทะเล และต่อมาได้กลายเป็นแหล่งดำน้ำของนักท่องเที่ยวบริเวณรีสอร์ตทาลัม ชายฝั่งทะเลแคริบเบียน.