จีนล็อกดาวน์ชุมชนในกรุงปักกิ่งอีก 10 แห่ง หลังเกิดการระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19 ที่ตลาดซินฟาตี้ จีนอ้างด้วยว่า ไวรัสที่กำลังระบาดมีสายพันธ์ุเกี่ยวข้องกับเชื้อที่แพร่กระจายในยุโรป
สำนักข่าว ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า ทางการของประเทศจีนบังคับใช้มาตรการล็อกดาว์ในพื้นที่อย่างน้อย 10 ชุมชนใกล้กับตลาด หยูกวนตง ในเขตไห่เตียน ของกรุงปักกิ่ง แล้วในวันจันทร์ที่ 15 มิ.ย. 2563 หลังจากพบผู้ติดเชื้อหลายรายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวถูกสั่งให้กักตัวอยู่แต่ในบ้าน และต้องรับการตรวจกรดนิวคลีอิก เพื่อหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในร่างกาย โดยผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่พบจนถึงตอนนี้เกี่ยวข้องกับตลาด ‘ซินฟาตี้’ ตลาดค้าส่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเฟิงไถ และกลายเป็นแหล่งแพร่ระบาดแห่งใหม่ของจีนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
...
รัฐบาลจีนเปิดเผยในวันจันทร์ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 49 ราย ในจำนวนนี้ 36 รายเชื่อมโยงกับตลาดซินฟาตี้ ซึ่งถูกปิดไปเมื่อวันเสาร์ และทำให้ย่านชุมชนแห่ง 11 แห่งในละแวกใกล้เคียงต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกรุงปักกิ่งระบุว่า ผลการตรวจสอบยีนของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้เกิดการระบาดครั้งใหม่กรุงปักกิ่ง พบว่าเกี่ยวข้องกับสายพันธ์ุของไวรัสที่ระบาดในยุโรป แต่ไม่แน่ชัดว่าเชื้อติดมากับคนหรืออาหารที่นำเข้ามากันแน่
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า พบเชื้อไวรัสโควิด-19 ปนเปื้อนบนเขียงแล่ปลาแซลมอนนำเข้าในตลาดซินฟาตี้ จนเกิดความกังวลว่ามีเชื้ออยู่ในแซลมอนหรือไม่ ทำให้ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในกรุงปักกิ่งหยุดขายปลาชนิดนี้ ขณะที่ร้านอาหารต้องถอดแซลมอนออกจากเมนู ส่วนรัฐบาลก็สั่งยกเลิกนำเข้าปลาชนิดนี้จากนอร์เวย์แล้ว
อย่างไรก็ตาม นักไวรัสวิทยาหลายคนยืนยันว่า แทบเป็นไปไม่ได้ที่แซลมอนจะเป็นพาหะแพร่เชื้อโควิด-19 ในกรุงปักกิ่ง เพราะเชื้อตัวนี้ต้องอาศัย ‘ตัวรับ’ (receptor) ในการจับตัวกับผิวเซลล์ของสัตว์พาหะ ซึ่งตัวรับสำหรับโควิด-19 พบเฉพาะในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเท่านั้น ไม่พบในปลา.