ชาวอังกฤษออกมารวมตัวประท้วงต่อต้านการเหยียดผิวทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ชุมนุมที่เมืองบริสตอล ร่วมกันโค่นล้มรูปปั้นของพ่อค้าทาสชื่อดังในยุคศตวรรษที่ 17 ก่อนลากไปทิ้งในแม่น้ำ
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ประชาชนในสหราชอาณาจักรออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านการเหยียดผิว ซึ่งมีชนวนเหตุจากการฆาตกรรม นายจอร์จ ฟลอยด์ ในสหรัฐฯ เป็นวันที่ 2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 มิ.ย. 2563 โดยมีการชุมนุมในกรุงลอนดอน และเมืองอื่นๆ ทั่วประเทศ เช่น เมืองบริสตอล, แมนเชสเตอร์, วูล์ฟแฮมป์ตัน, นอตติงแฮม, กลาสโก และเอดินบะระ
การประท้วงส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบตลอดทั้งวัน แต่ก็มีรายงานการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจที่เมืองเวสต์มินสเตอร์ จนเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการสลายการชุมนุม ขณะที่ในช่วงค่ำเวลาประมาณ 20.00 น. การประท้วงที่หน้าอาคารรัฐสภาในกรุงลอนดอนเริ่มรุนแรงขึ้น มีการขว้างปาขวดน้ำใส่เจ้าหน้าที่ และเกิดการปะทะกันเมื่อตำรวจพยายามจับกุมชายคนหนึ่ง มีรายงานตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นายด้วย
ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ที่เมืองบริสตอล เกิดเหตุผู้ชุมนุมรวมตัวกันใช้เชือกดึงโค่นรูปปั้นทองเหลืองของนาย ‘เอ็ดเวิร์ด โคลส์ตัน’ นักค้าทาสชื่อดังในยุคศตวรรษที่ 17 ผู้เป็นสมาชิกของบริษัท รอยัล แอฟริกัน ซึ่งขนส่งชาวแอฟริกันทั้งชาย, หญิง และเด็ก จำนวนกว่า 80,000 คนมายังอเมริกา
...
ทั้งนี้ การมีอยู่ของรูปปั้นของนายโคลส์ตันเป็นที่ถกเถียงในหมู่ชาวเมืองบริสตอลมานานหลายปี โดยเขาได้รับการยกย่องจากการบริจาคทรัพย์สินจำนวนมากของเขาแก่การกุศลในปี 1721 (พ.ศ.2264) ซึ่งเป็นปีที่เขาเสียชีวิต และมรดกหลายอย่างของเขายังคงพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนนของเมืองบริสตอล, อนุสรณ์สถาน และอาคารต่างๆ
หลังจากถูกโค่นลงมาแล้ว ผู้ชุมนุมก็ลากรูปปั้นของนายโคลส์ตันไปตามถนน ก่อนจะช่วยกันโยนลงไปในแม่น้ำ ส่วนฐานของรูปปั้นซึ่งตอนนี้ว่างเปล่า ถูกใช้เป็นเวทีสำหรับการประท้วงแทน
ด้านศาสตราจารย์ เดวิด โอลูโซกา นักประวัติศาสตร์ บอกกับ บีบีซี ว่า รูปปั้นของนายโคลส์ตันควรถูกโค่นลงมาตั้งนานแล้ว “รูปปั้นต่างๆ เป็นสิ่งที่ใช้สื่อว่านี่คือบุคคลยิ่งใหญ่ผู้ทำเรื่องที่ยอดเยี่ยม แต่นี่มันไม่จริง เขาเป็นพ่อค้าทาส และฆาตกร”.