ชาวลอนดอนทั้งเศร้าและโกรธแค้นต่อการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ออกมาประท้วงเรียกร้องความเท่าเทียม ชี้ปัญหาเหยียดสีผิวไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในสหรัฐฯ

เมื่อ 4 มิถุนายน 63 ประชาชนในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษกว่า1,000 คนออกประท้วงการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีชาวสหรัฐฯ ที่เสียชีวิตขณะถูกตำรวจผิวขาวจับกุมในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ของสหรัฐอเมริกา โดยผู้ประท้วงได้เริ่มเดินขบวนจากสวนสาธารณะไฮด์ ปาร์ค ไปตามถนนในกรุงลอนดอน ขณะที่ผู้ประท้วงส่วนหนึ่งได้เดินขบวนผ่านถนนดาวนิง ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านพักนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และตรงไปยังสถานทูตสหรัฐอเมริกา พร้อมกับตะโกนสโลแกนเรียกร้องความเท่าเทียม

ด้านผู้ประท้วงระบุว่า การเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์เปรียบเสมือนความเจ็บปวดที่ฝังอยู่ในจิตใจที่ก่อให้เกิดความโกรธแค้นและเศร้าสลด ทำให้พวกเขามองข้ามการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และออกมารวมตัวประท้วง ขณะที่ผู้ประท้วงหญิงวัย 26 ปี ระบุว่านี่คือการเคลื่อนไหวที่สำคัญในการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม โดยมองว่าปัญหาการเหยียดสีผิวไม่ใช่ปัญหาในสหรัฐฯ เท่านั้น แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลกรวมถึงสหราชอาณาจักรด้วย

...

โดยถึงแม้ว่านายเดเร็ค เชาวิน อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ ที่ใช้เข่ากดต้นคอชายผิวดำจนเสียชีวิตขณะจับกุมได้ถูกไล่ออกและถูกดำเนินคดีข้อหาฆาตกรรมระดับ 2 แต่การประท้วงไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงและลามไปทั่วสหรัฐฯ รวมถึงเมืองใหญ่ในยุโรป