สำนักงานตรวจสอบทางการแพทย์สหรัฐฯ เผยผลชันสูตรศพ จอร์จ ฟลอยด์ ระบุ เคยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ช่วงต้นเดือน เม.ย. แต่เสียชีวิตเนื่องจากภาวะหัวใจหยุดเต้น ขณะถูกแรงกดที่ลำคอ

เมื่อ 4 มิ.ย.63 เว็บไซต์เดลี่เมลและเดอะ ซัน รายงาน สำนักงานตรวจสอบทางการแพทย์เขตเฮนนีพิน เคาน์ตี้ ในรัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐฯ เผยแพร่เอกสารทางการแพทย์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น แจ้งผลการชันสูตรศพ นายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา วัย 46 ปี ที่เสียชีวิตขณะถูกตำรวจในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตาจับกุม พร้อมกับใช้เข่ากดบริเวณลำคอเมื่อ25 พ.ค.63 ว่า จากผลการชันสูตรศพฟลอยด์ โดยนายแพทย์แอนดรูว์ เอ็ม.เบเกอร์ ในวันที่ 26 พ.ค.พบ ฟลอยด์ ได้รับการตรวจวินิจฉัยพบติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 เมื่อ 3 เมษายน ที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าฟลอยด์ ถึงแม้จะติดเชื้อโควิด แต่ก็ไม่มีอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 ในช่วงเวลาที่เขาเสียชีวิต

...

ผลการชันสูตรศพฟลอยด์ ซึ่งแต่งงานและมีบุตรแล้ว 2 คน ระบุว่า เขาเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้น หลังจากถูกแรงกดที่ลำคอ ขณะเดียวกัน รายงานการชันสูตรศพ ยังระบุด้วยว่า ฟลอยด์ เคยมีประวัติเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น และยังพบสารเฟนทานิล และเมตแอมเฟสตามีนในร่างกายเช่นกัน แต่ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เขาเสียชีวิต นอกจากนั้น ยังพบว่าปอดของฟลอยด์แข็งแรงดี แต่มีหลอดเลือดแดงในหัวใจบางเส้นตีบ

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวของฟลอยด์ ได้เผยผลการชันสูตรศพโดยแพทย์ ระบุฟลอยด์เสียชีวิตจากภาวะหายใจไม่ออกจากการถูกแรงกดที่ลำคอ หลังจากคลิปการเสียชีวิตของฟลอยด์ ขณะถูก นายเดเร็ค เชาวิน อดีตตำรวจจับกุม และใช้เข่ากดบริเวณลำคอนานกว่า 8 นาที ได้สร้างความสะเทือนใจและโกรธแค้นให้แก่ชาวอเมริกัน จนออกมาชุมนุมก่อม็อบประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมให้กับฟลอยด์ทั่วประเทศสหรัฐฯ รวมทั้งในหลายประเทศทั่วโลก