สถานการณ์กรณีตำรวจผิวขาวในเมืองมินนีอาโปลิส รัฐมินเนโซตาของสหรัฐฯ จับกุมนายจอร์จ ฟลอยด์ ผู้ต้องหาผิวสี วัย 46 ปี โดยตำรวจนายหนึ่งคือ ดีเรค เชาวิน ใช้เข่ากดซอกคอผู้ต้องหาอยู่นานจนเสียชีวิตตั้งแต่ 25 พ.ค. ก่อให้เกิดการประท้วงอย่างต่อเนื่องในหลายเมืองใหญ่ของสหรัฐฯย่างเข้าวันที่ 8 เมื่อวันอังคาร 2 มิ.ย.ตามเวลาสหรัฐฯ ผู้คนหลายหมื่นต่างเคลื่อนไหวประท้วงตามท้องถนนในหลายเมือง รวมถึงนครลอสแอนเจลิส เมืองฟิลาเดลเฟีย เมืองแอตแลนตา นครซีแอตเติล กรุงวอชิงตันดี.ซี มหานครนิวยอร์ก รวมถึงเมืองมินนีอาโปลิส แต่สถานการณ์ประท้วงส่วนใหญ่เริ่มสงบลงบ้างแล้ว หลังเกิดจลาจลและปล้นสดมในหลายพื้นที่และมีผู้ถูกจับกุมจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวประท้วงที่เมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส บ้านเกิดของนายจอร์จ ฟลอยด์ เหล่าญาติพี่น้องของนายฟลอยด์ ก็เคลื่อนไหวประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรม ก่อนพิธีฝังศพนายฟลอยด์เมื่อวันพฤหัสบดี 4 มิ.ย. การเคลื่อนไหวประท้วงในหลายเมืองยังฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิว ซึ่งห้ามผู้คนออกนอกเคหสถานตั้งแต่ช่วงเวลา 20.00 น. โดยหลายพื้นที่มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความมั่นคงแห่งชาติเข้าดูแลความสงบเรียบร้อย
ส่วนท่าทีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยังพยายามปกป้องตัวเองจากสถานการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นโดยระบุกลุ่มผู้ประท้วงไม่ใช่การเคลื่อนไหวอย่างสันติเพราะมีการจุดไฟเผาโบสถ์ในกรุงวอชิงตัน ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ขณะที่ผล สำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันต่อเรื่องที่เกิดขึ้น พบว่าชาวบ้านเสียงส่วนใหญ่ 64 เปอร์เซ็นต์เห็นอกเห็นใจกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านความไม่เป็นธรรม และชาวบ้าน 27 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวประท้วงรุนแรง นอกจากนั้น ชาวอเมริกัน 55 เปอร์เซ็นต์ไม่พอใจวิธีการที่ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งดำเนินการต่อผู้ประท้วง
...
ก่อนหน้านี้ อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่าที่ผู้แทนพรรคเดโมแครตขึ้นชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯกับนายทรัมป์ช่วงปลายปีนี้ ระบุวิพากษ์วิจารณ์นายทรัมป์กำลังพยายามใช้วิกฤตการณ์ประท้วงครั้งนี้เพื่อเหตุผลทางการเมือง ส่วนนายดีเรค เชาวิน ตำรวจที่ก่อเหตุจับกุมนายจอร์จ ฟลอยด์ ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา โดยมีกำหนดขึ้นศาลสัปดาห์หน้า ขณะที่เพื่อนตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์อีก 3 นาย ถูกไล่ออกจากราชการและอยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีด้วย.