# BlackLivesMatter ‘ชีวิตคนผิวสีก็มีความหมาย’ กลายเป็นแฮชแท็กที่ขึ้นเทรนด์ในทวิตเตอร์ นับตั้งแต่ชาวอเมริกันออกมาชุมนุมประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีวัย 46 ปี ที่ต้องมาเสียชีวิตขณะถูกตำรวจในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา จับกุมเมื่อวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.63
ชนิดที่หากไม่มีพยานที่เห็นเหตุการณ์ โดยเฉพาะคลิปวิดีโอหรือกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานสำคัญ เราคงไม่มีโอกาสได้รู้ความจริงว่า เกิดอะไรขึ้นกับ จอร์จ ฟลอยด์ และตำรวจทำอะไรกับเขาบ้าง? ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนจะหมดลมหายใจ!!
และนี่คือลำดับเหตุการณ์ชะตากรรมที่เกิดกับ จอร์จ ฟลอยด์ ที่ถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสร้างความเจ็บปวด เดือดดาล โกรธแค้นให้แก่ชาวอเมริกันทั่วทั้งประเทศ
- ย้ายมาอยู่มินนิแอโพลิส 7 ปีแล้ว
บีบีซีรายงานว่า ฟลอยด์ เกิดที่เมืองฮิวส์ตัน รัฐเทกซัส แต่ได้ย้ายมาอยู่ในเมืองมินนิแอโพลิส รัฐมินนิโซตา มานาน 7 ปีแล้ว ฟลอยด์มีรูปร่างกำยำ สูงใหญ่เคยทำงานเป็นคนดูแลร้านในเมือง และเหมือนกับชาวอเมริกันหลายล้านคนที่ต้องตกงานจากการระบาดของเชื้อโควิด-19
จากการเปิดเผยของเจ้าของร้าน Cup Foods บอกว่า ฟลอยด์ มีใบหน้าที่เป็นมิตร เป็นลูกค้าที่มาซื้อของในร้านแห่งนี้เป็นประจำ และไม่เคยสร้างปัญหาใดๆ มาก่อนเลย เพียงแต่วันที่เกิดเหตุ เจ้าของร้านไม่อยู่
...
- พนักงานร้านค้าแจ้งตำรวจให้มาจับ-ใช้แบงก์ปลอม
เหตุการณ์สะเทือนใจของฟลอยด์ เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 25 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเขาได้เข้าไปซื้อบุหรี่ ในร้านขายของ Cup Foods ซึ่งเป็นร้านที่เขามาซื้อสินค้าเป็นประจำ โดยพนักงานที่ยังเป็นวัยรุ่นรับหน้าที่ดูแลร้าน เชื่อว่าฟลอยด์ ใช้ธนบัตร หรือแบงก์ 20 ดอลลาร์ปลอมมาซื้อบุหรี่ จึงตัดสินใจโทร.หมายเลข 911 แจ้งตำรวจเมื่อเวลา 20.01 น. ตามเวลาท้องถิ่น
จากรายงานของตำรวจ ระบุ พนักงานคนนี้ได้แจ้งกับโอเปอเรเตอร์ว่า มีชายคนหนึ่งจ่ายเงินซื้อบุหรี่ด้วยแบงก์ปลอม จึงทำให้ตนขอบุหรี่คืน แต่เขาไม่ยอมคืนบุหรี่ตามคำขอ นอกจากนั้น ชายคนนี้มีอาการดูเหมือน 'มึนเมา' และไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
จากนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายมาถึงที่ร้านค้า เมื่อเวลา 20.08 น. ซึ่งขณะนั้น ฟลอยด์ได้นั่งอยู่กับคนอีกสองคนอยู่ในรถยนต์คันหนึ่งที่จอดอยู่บริเวณหัวมุมถนน
เมื่อตำรวจมาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ชื่อ โธมัส เลน ได้ชักปืนออกมา และสั่งให้ฟลอยด์ยกมือขึ้น (ทว่าอัยการไม่ได้อธิบายว่าทำไมตำรวจจึงจำเป็นต้องชักปืนออกมา) จากนั้น เลนได้กระชากดึงฟลอยด์ออกมาจากรถ และเขาได้พยายามขัดขืนขณะกำลังจะถูกใส่กุญแจมือ
- ถูกใส่กุญแจมือ
ทันทีที่ฟลอยด์ถูกใส่กุญแจมือ เขากลายเป็นผู้ต้องสงสัย โดยตำรวจได้แจ้งให้เขาทราบข้อหาที่ถูกจับ เพราะจ่ายเงินซื้อสินค้าด้วยธนบัตรปลอม
เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามจะเอาตัวฟลอยด์ขึ้นรถ แต่เขาขัดขืน จนเมื่อเวลา 20.14 น. ตามรายงานตำรวจระบุ ฟลอยด์บอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเขามีอาการกลัวที่แคบ
ต่อมา เดเร็ค เชาวิน ตำรวจอีกนายหนึ่งได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุและทันทีที่มาถึง เชาวิน และตำรวจที่ร่วมเหตุการณ์พยายามจะช่วยกันเอาตัวฟลอยด์ขึ้นรถตำรวจ และเหตุร้ายแรงได้เกิดขึ้น ตอนเวลา 20.19 น.เมื่อเชาวินได้ดึงกระชากฟลอยด์ออกมาจากบริเวณที่นั่งผู้โดยสารในรถ ทำให้เขาล้มลงกับพื้น นอนคว่ำกับพื้นถนน และยังคงถูกสวมกุญแจมือ
วินาทีนี้ได้มีคนที่เห็นเหตุการณ์หลายคนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอ บันทึกเหตุการณ์ ขณะเชาวินใช้เข่าของเขากดลงไปที่บริเวณศีรษะและลำคอของฟลอยด์ที่ใบหน้าแนบพื้นถนน
'ผมหายใจไม่ออก' ฟลอยด์พูดขอร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า 'ได้โปรด ได้โปรด ได้โปรด' เสียงวิงวอนสุดท้ายของเขา
...
8 นาที 46 วินาที คือระยะเวลาที่ตำรวจเชาวินใช้เข่ากดลำคอของฟลอยด์ โดยมีหลักฐานคลิปวิดีโอเป็นเครื่องยืนยัน และเขาได้ยกเข่าออกจากบริเวณลำคอของฟลอยด์ในเวลา 20.27 น.
- หมดสติตั้งแต่นาทีที่ 6 แล้ว
คนที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ที่พยายามร้องขอให้ตำรวจหยุดการกระทำ ได้บอกให้ตำรวจตรวจเช็กชีพจรของฟลอยด์ ซึ่งอยู่ในสภาพแน่นิ่ง หลังจากตำรวจใช้เข่ากดบริเวณลำคอเขามาแล้ว 6 นาที และเสียงของฟลอยด์ได้เงียบหายไป โดย JA Kueng ตำรวจ 1 ใน 4 นายที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ ได้เข้าไปจับชีพจรที่ข้อมือขวาของฟลอยด์ กระทั่งถึงเวลา 20.27 น. ตำรวจเชาวินจึงยกเข่าออกจากบริเวณคอของฟลอยด์ และแจ้งรถพยาบาลให้มารับนำส่งโรงพยาบาล Hennepin County Medical Center แต่ก็สายไปเสียแล้ว
...
หลังจากมีการแชร์คลิปบันทึกเหตุการณ์สะเทือนใจนี้ในสังคมออนไลน์ ทำให้ชาวอเมริกันในเมืองมินนิแอโพลิส ออกมาชุมนุมประท้วงด้วยความโกรธแค้น และเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ ฟลอยด์ จนนำไปสู่การเกิดจลาจลรุนแรงทั่วทั้งประเทศ ทางการสหรัฐฯประกาศภาวะฉุกเฉิน ใช้มาตรการเคอร์ฟิวในเมืองต่างๆ อย่างน้อย 40 เมืองทั่วประเทศ ส่งทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิมาช่วยตำรวจปราบจลาจลระงับเหตุรุนแรง ที่ตอกย้ำให้เห็นถึงปัญหาการเหยียดสีผิวบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกาที่สร้างความเจ็บปวดสะเทือนใจอย่างสุดแสนอีกครั้ง.
...
ที่มา : BBC
เปรียบเทียบราคาทุกร้าน ที่นี่ >>> คลิก