ม็อบสหรัฐฯ ก่อจลาจลเดือด บุกจุดไฟเผาใกล้ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดนตำรวจปราบจลาจลพยายามยิงแก๊สน้ำตาขับไล่ ขณะที่เหตุจลาจลรุนแรงตอบโต้การเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ลุกลามไปทั่วประเทศ
เมื่อ 1 มิ.ย.63 สำนักข่าวต่างประเทศ รอยเตอร์ และซีเอ็นเอ็น เกาะติดสถานการณ์ประท้วงที่กลายเป็นจลาจลรุนแรงลุกลามไปยังหลายเมือง อย่างน้อย 40 เมืองทั่วประเทศ จากความไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ทำรุนแรงเกินกว่าเหตุต่อ นายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีวัย 46 จนเสียชีวิต ขณะถูกจับกุม หลังได้รับแจ้งจากร้านค้าแห่งหนึ่งในเมืองว่า นายฟลอยด์ ได้ใช้ธนบัตรปลอม 20 ดอลลาร์ซื้อสินค้านั้น มีรายงานม็อบที่เต็มไปด้วยอารมณ์เดือดดาลโกรธแค้น ได้จุดไฟเผาสิ่งของระหว่างการชุมนุม จนเกิดไฟลุกไหม้ใกล้กับทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อคืนวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา จนตำรวจปราบจลาจลต้องยิงแก๊สน้ำตาไล่ม็อบ จนก่อให้เกิดกลุ่มควันแก๊สน้ำตา
...
ซีเอ็นเอ็น แจ้งว่า เมื่อคืนวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุจลาจล ม็อบปะทะตำรวจ ในหลายเมือง รวมทั้งกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก และเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย โดยมีร้านค้าในนครนิวยอร์ก และในรัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกกลุ่มผู้ประท้วงบุกทุบทำลายร้านและปล้นสินค้า
นอกจากนั้น ยังเกิดเหตุมีผู้ถูกตำรวจยิงเสียชีวิต 2 ราย ในเมืองแดเวนพอร์ต รัฐไอโอวา และมีชายคนหนึ่งในเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนตักกี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต เมื่อกลางดึกเข้าสู่เช้าวันจันทร์ที่ 1 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น แต่เบื้องต้นยังไม่แน่ชัดว่าชายคนดังกล่าวถูกตำรวจวิสามัญยิงเสียชีวิต ขณะร่วมการชุมนุมประท้วงหรือไม่
ทั้งนี้ ทางการสหรัฐฯ ได้ประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกบ้านในยามวิกาล เพื่อควบคุมสถานการณ์จลาจลแล้วอย่างน้อย 40 เมืองทั่วประเทศ ทว่ายังคงมีม็อบฝ่าฝืนมาตรการเคอร์ฟิวในบางพื้นที่ ออกมาก่อเหตุจลาจลรุนแรงอย่างต่อเนื่องเป็นคืนที่ 6 แล้วจนถึงคืนวันที่ 1 มิ.ย.63