โควิด-19 อาจทำให้ปีหน้ามีเด็กเกิดใหม่ในอินโดนีเซียมากกว่าปกติ เนื่องจากบางครอบครัวอาจเห็นว่าการคุมกำเนิดไม่สำคัญ ขณะเดียวกันยังพบอุปสรรคในการวางแผนครอบครัวด้วย
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานวันที่ 19 พ.ค. ว่า หน่วยงานด้านการวางแผนครอบครัวในอินโดนีเซีย คาดว่าในปีหน้า อาจมีการให้กำเนิดบุตรโดยไม่ตั้งใจมากถึงกว่า 420,000 คน เนื่องจากการคุมกำเนิดที่ไม่ได้ผลในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19
นายฮาสโต วาร์โดโย ประธานคณะกรรมการการวางแผนครอบครัวและประชากรแห่งชาติอินโดนีเซียระบุว่า น่าจะมีชาวอินโดนีเซียอีกจำนวนมากที่มองว่า การคุมกำเนิดไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ควรทำในตอนนี้ พร้อมกับแนะนำว่า นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีที่จะมีลูก ดังนั้นจึงไม่ควรหยุดคุมกำเนิด
นอกจากนี้ หน่วยงานด้านการวางแผนครอบครัวระบุว่า การบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ในอินโดนีเซีย ทำให้คลินิกต่างๆ ปิดบริการ และส่งผลให้ชาวบ้านเข้าไม่ถึงการวางแผนครอบครัว ซึ่งเบื้องต้นทางการจะส่งเจ้าหน้าที่ไปเคาะประตู พร้อมให้คำปรึกษาด้านการวางแผนครอบครัวถึงที่บ้าน
อินโดนีเซียเป็นชาติมุสลิมที่มีประชากรมากที่สุดในโลก โดยมีถึงกว่า 260 ล้านคน และยังมากเป็นอันดับที่ 4 ของโลกด้วย ซึ่งตามปกติแล้ว อินโดนีเซียจะมีเด็กเกิดใหม่ประมาณ 4,800,000 คนต่อปี โดยรายงานระบุว่า ผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดมากถึงราว 95% เป็นผู้หญิง ขณะที่ฝ่ายชายจำนวนมากปฏิเสธการใส่ถุงยางอนามัย