รถบรรทุกแรงงานย้ายถิ่นในอินเดียหลายสิบคน ที่ต้องการกลับบ้านช่วงล็อกดาวน์ ชนรถบรรทุกอีกคันจนมีผู้เสียชีวิต 24 ราย ขณะที่ยอดติดโควิดสะสมทั่วประเทศพุ่งทะลุ 9 หมื่นรายแล้ว
เว็บไซต์ ศูนย์ข้อมูลไวรัสโคโรนา ของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮ็อปกินส์ ระบุว่า ยอดสะสมของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น 90,615 รายแล้ว ในคืนวันเสาร์ที่ 16 พ.ค. 2563 ในจำนวนนี้มีผู้ได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว 34,220 ราย และเสียชีวิต 2,871 ศพ
สถิติดังกล่าวหมายความว่า อินเดียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แซงหน้าประเทศจีนซี่งเป็นต้นกำเนิดของไวรัสชนิดนี้ที่มีผู้ติดเชื้อราว 84,038 รายไปแล้ว ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากภาคธุรกิจ, แรงงาน และผู้นำรัฐต่างๆ ที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี คลายมาตรการล็อกดาวน์ และเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ในขณะที่มีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะขยาดเวลาล็อกดาวน์ที่จะหมดลงในวันอาทิตย์นี้ออกไปอีก

...
ทั้งนี้ อินเดียเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์ห้ามคนออกจากบ้านและจำกัดการเดินทางอย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วประเทศอย่างมาก แรงงานย้ายถิ่นหลายล้านคนที่ต้องพึ่งพาค่าจ้างรายวันต้องตกงาน และสูญเสียรายได้
เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ มีรายงานว่าแรงงานย้ายถิ่นหลายสิบคนฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์โดยสารรถบรรทุกเพื่อเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อหนีสภาวะตกงานในเมืองใหญ่ ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุกอีกคันที่จอดอยู่จนพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 24 ศพและบาดเจ็บอีก 35 คน
อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในเขต ออไรยา ของรัฐ อุตตรประเทศ ทางเหนือของอินเดีย ขณะที่แรงงานส่วนใหญ่ที่ประสบเหตุเดินทางมาจากรัฐ ฌารขันท์ กับรัฐบาล เบงกอลตะวันตก ทางตะวันออกของอินเดีย
อนึ่ง อินเดียมีมาตรการจัดสรรรถบัสพิเศษเพื่อส่งแรงงานย้ายถิ่นกลับสู่บ้านเกิด แต่เนื่องจากมีผู้ต้องการเดินทางจำนวนมหาศาล แรงงานที่ร้อนใจต้องการกลับบ้านจำนวนมากจึงใช้วิธีการเดินเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร หรือโดยสารไปกับรถขนสินค้าต่างๆ จนเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตบ่อยครั้ง เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวแรงงาน 6 คนก็ถูกรถบัสชนเสียชีวิตขณะเดินบนถนนหลวง ในเขต มูซาฟาร์นาการ์ ของรัฐอุตตรประเทศมาแล้ว