นักวิจัยวัคซีนโควิด-19 เผยข่าวดีหลังทดลองวัคซีนกับลิง พบลิงที่ฉีดวัคซีนมีไวรัสในปอดน้อยกว่า ขณะที่สหรัฐฯ เผยเตรียมทดลองกับมนุษย์ครั้งใหญ่เดือนกรกฎาคมนี้ เชื่อปลายปีหรือมกราคมปีหน้าอาจได้ใช้

เว็บไซต์บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันที่ 15 พ.ค. ว่า ทีมนักวิจัยจากสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พบความคืบหน้าสำคัญในการทดลองวัคซีนโควิด-19 กับลิง ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีระบบภูมิคุ้มกันใกล้เคียงกับมนุษย์

การทดลองดำเนินการโดยแบ่งลิงเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งฉีดวัคซีนโควิด-19 และอีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้ฉีด แล้วให้ลิงได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลปรากฏว่า พบไวรัสโควิด-19 ในปอดและทางเดินหายใจของลิงที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 น้อยกว่ากลุ่มลิงที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน

ผลการทดลองนี้ทำให้ดูเหมือนว่า วัคซีนโควิด-19 มีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการปอดบวมเมื่อได้รับเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ในการวิจัยยังพบว่า วัคซีนดังกล่าวไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงที่มนุษย์จะตอบสนองต่อไวรัสในแบบที่อาจส่งผลทางลบต่อร่างกายด้วย

แม้การทดลองนี้จะยังไม่ผ่านการทดสอบซ้ำจากนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ รวมถึงยังไม่มีการตีพิมพ์อย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่า ร่างกายของมนุษย์จะตอบสนองได้เช่นเดียวกับลิง แต่ผู้เชี่ยวชาญอย่างศาสตราจารย์สตีเฟน อีวานส์ จาก The London School of Hygiene & Tropical Medicine ก็ชี้ว่า การทดลองนี้มีคุณภาพสูงและให้ผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้น

ในขณะนี้มีหลายประเทศกำลังพัฒนาวัคซีนโควิด-19 โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า วัคซีนโควิด-19 จะพัฒนาเสร็จภายในปลายปีนี้ ซึ่งล่าสุด ดร.ฟรานซิส คอลลินส์ ผู้อำนวยการสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) เปิดเผยว่า เป้าหมายการพัฒนาวัคซีนของสหรัฐฯทคือพยายามให้มีวัคซีนโควิด-19 ภายในเดือนมกราคมปีหน้า โดยอาจนำมาใช้ได้ในกรณีฉุกเฉินตั้งแต่เดือนธันวาคม

...

ผู้อำนวยการ NIH ยังเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้มีวัคซีนโควิด-19 2 ชนิดที่มีความคืบหน้าไปมาก โดยในจำนวนนี้ 1 ชนิด จะเริ่มทดลองกับมนุษย์โดยการใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวนมากในเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนวัคซีนอีกชนิดจะมีการทดลองตามมา