ทางการเวียดนามพยายามอย่างหนัก หวังช่วยชีวิตนักบินติดเชื้อโควิด อาการวิกฤติ หลังใช้เครื่องช่วยหายใจมากว่า 30 วัน และปอดทำงานได้เหลือแค่ 10% ขณะที่ตอนนี้ยังไม่มีผู้เสียชีวิตจากโควิดในประเทศ
เมื่อ 15 พฤษภาคม 63 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการเวียดนามทุ่มสรรพกำลังทางการแพทย์ทุกด้านอย่างเต็มที่ เพื่อพยายามรักษาชีวิตนักบินชายชาวอังกฤษรายหนึ่ง ซึ่งทำงานกับสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ และขณะนี้กำลังป่วยหนักขั้นวิกฤติด้วยโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 โดยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อยู่ในห้องไอซียูมากว่า 30 วันแล้ว
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นเวียดนาม เผยว่า นักบินชายผู้นี้อายุ 43 ปี ถูกทางการเวียดนามระบุชื่อเรียกเพียง ‘ผู้ป่วยรายที่ 91’ ได้ติดเชื้อโควิดจากบาร์แห่งหนึ่งในย่านธุรกิจของนครโฮจิมินห์ เมืองเศรษฐกิจทางตอนใต้ของเวียดนาม เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่มีผู้คนกว่า 4,000 คนได้เกี่ยวข้องติดต่อกับกลุ่มก้อนคนผู้ติดเชื้อจากย่านดังกล่าว และในจำนวนนี้ถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 18 ราย
...
ในขณะที่ผู้ป่วยด้วยโรคโควิดรายอื่นสามารถหายป่วยออกจากโรงพยาบาล แต่ผู้ป่วยรายที่ 91 อาการกลับทรุดหนักลงอย่างน่าวิตก ในขณะที่ตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในเวียดนามอยู่แค่เพียง 312 ราย และยังไม่มีผู้เสียชีวิต โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามได้มีการประชุมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จากโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ ในประเทศ เพื่อระดมความคิดหาทางรักษาเพื่อช่วยชีวิตนักบินชายรายนี้ และเห็นว่ามีเพียงทางเดียวที่จะช่วยชีวิตเขาได้คือ การปลูกถ่ายปอดที่ได้รับบริจาคเท่านั้น เนื่องจากขณะนี้ปอดของผู้ป่วยสามารถทำงานได้เพียงแค่ 10%
การพยายามรักษาชีวิตนักบินรายนี้ได้ทำให้ชาวเวียดนามให้ความสนใจติดตามข่าวกันทั้งประเทศ โดยเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา มีคนจิตอาสามาบริจาคปอดให้แก่ผู้ป่วยนับ 10 คน แต่แพทย์ไม่สามารถรับได้ เนื่องจากส่วนใหญ่มีชีวิต
ด้าน รมช.สาธารณสุขเวียดนาม เผยว่า เมื่อเดือนที่แล้วทางการเวียดนามได้สั่งยาพิเศษนำเข้ามาจากต่างประเทศ เพื่อสลายลิ่มเลือด แต่ไม่ได้ผล โดยขณะนี้รัฐบาลได้เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาชีวิตนักบินรายนี้แล้วนับ 5 พันล้านด่อง หรือราว 2 แสนดอลลาร์ ประมาณ 6.4 ล้านบาท ขณะที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่าอาการป่วยของนักบินรายนี้ทรุดหนักลงมากขึ้น แต่แพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่เก่งที่สุดของเวียดนามพยายามจะช่วยชีวิต และพวกเราได้แต่หวังให้เขาอาการดีขึ้นในเร็ววันนี้.