รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ แห่งสหรัฐฯ แยกตัวเอง แต่ไม่ถึงกับกักตัว หลังแคที มิลเลอร์ ผู้ช่วยระดับสูงติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ทำเนียบขาวผวาไวรัสมรณะ ทรัมป์สั่ง จนท.สวมหน้ากากอนามัยทุกคน
เมื่อ 12 พฤษภาคม 63 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานการพบผู้ป่วยในทำเนียบขาว ทำให้รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์แห่งสหรัฐฯ ต้องประกาศแยกตัวเอง แต่ไม่ถึงกับกักตัว หลังจากแคที มิลเลอร์ ผู้ช่วยระดับสูง ซึ่งทำหน้าที่เป็นเลขาธิการฝ่ายสื่อของรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด19
นอกจากนั้น ยังมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่กำลังทำหน้าที่จัดการโรคโควิด-19 อย่างน้อย 3 คน ถูกกักตัว หลังมีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วย ได้แก่ ดร.แอนโทนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งมีบทบาทโดดเด่นในการรายงานสถานการณ์โควิด-19 ต่อสาธารณะ ตลอดจน ดร.โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด และนายสตีเฟ่น ฮาห์น กรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ

...
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตันดีซี ที่ทำงานอยู่อาคารปีกตะวันตก ได้รับคำสั่งให้ต้องสวมหน้ากากอนามัยมาทำงาน และสวมไว้ตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน ยกเว้นเวลานั่งอยู่ที่โต๊ะของตัวเองสามารถถอดออกมาได้ และขอความร่วมมือให้ทุกคนรักษาระยะห่างทางสังคมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่งมีเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว 2 รายตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่2019 ได้แก่ นางเคที มิลเลอร์ เลขาธิการฝ่ายสื่อของรองประธานาธิบดีไมค์ เพนส์ และทหารผู้ช่วย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ขับรถของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่าโควิด-19 ได้ลามเข้าสู่ทำเนียบขาวแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ออกมาแถลงข่าวที่โรส การ์เด้น ในทำเนียบขาว เมื่อ11 พฤษภาคม กลับไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย โดยเขาบอกว่า ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตาม เพราะตัวเขาเองอยู่ห่างจากคนอื่นๆ อยู่แล้ว เมื่อถูกถามถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในทำเนียบขาว ผู้นำสหรัฐฯ บอกว่า แม้จะมีเจ้าหน้าที่มาทำงานวันละหลายร้อยคน แต่เชื่อว่าสามารถควบคุมได้ โดยล่าสุดสหรัฐฯ มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 1,385,834 ราย เสียชีวิตแล้ว 81,795 ศพ