อิตาลีเป็นประเทศแรกในโลกตะวันตกพบการระบาดของไวรัสโควิด-19 และมีผู้เสียชีวิตมากเป็นลำดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ ก่อนถูกอังกฤษแซงหน้า (ถ้านับเอาผู้เสียชีวิตรายที่ต้องสงสัยและไม่ยืนยันติดเชื้อเข้าไปด้วย)
แดนมะกะโรนีใช้มาตรการล็อกดาวน์ปิดประเทศเข้มงวดการเดินทางสกัดการระบาด
ปัจจุบันยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมีแนวโน้มค่อยๆลดลงประกอบกับแรงกดดันทางด้านเศรษฐกิจผู้คนยังต้องกินต้องใช้ รัฐบาลต้องชั่งใจวัดน้ำหนักความเหมาะสมก่อนเคาะอนุมัติคลายกฎ
รัฐบาลทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นคลายมาตรการล็อกดาวน์ และมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม เริ่มให้เปิดธุรกิจและอื่นๆได้ แบบค่อยเป็นค่อยไป เหมือนกลุ่มเพื่อนบ้านยุโรป
โดยหนึ่งในพื้นที่คลายมาตรการเข้มงวดและเปิดให้ทำธุรกิจได้ คือ เนเปิล เมืองเอกภูมิภาคคัมพาเนีย บ้านเกิดของพิซซ่า เมนูอาหารยอดฮิตของคนอิตาลีและนิยมกินกันทั่วโลก
ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 27 เม.ย. เตาอบถ่านไฟที่ใช้อบพิซซ่าในเมืองเนเปิลกลับมาร้อนระอุอีกครั้งพร้อมความหวังแห่งการเริ่มต้นใหม่หลังถูกแบนแน่นิ่งมาตลอด 2 เดือน เช่นเดียวกับบาร์ ร้านขนมอบ ร้านไอศกรีม และร้านอาหาร
อนุญาตให้ได้แค่โทรศัพท์สั่งซื้อและส่งดีลิเวอรีถึงบ้านพร้อมยังต้องคงมาตรการเข้มงวดเรื่องความสะอาด พนักงานต้องสวมถุงมือและหน้ากากอนามัย
แต่เจ้าของร้านพิซซ่าคนหนึ่งบอกว่า แม้จะเปิดให้แบบจำกัด แต่ถือว่าช่วยเศรษฐกิจทั้งภูมิภาค เพราะวัตถุดิบทั้งหมด ไม่ว่าแป้ง มะเขือเทศ มันฝรั่งและหอมหัวใหญ่ล้วนสั่งจากภายในท้องถิ่น ร้านพิซซ่าเปิดได้ ภาคส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องก็เริ่มเห็นอนาคตด้วยเหมือนกัน
ส่วนร้านพิซซ่าในกรุงโรมและพื้นที่อื่นๆ อนุญาตให้ซื้อกลับบ้านและส่งดีลิเวอรี ส่วนทั่วประเทศ บาร์ และร้านอาหารคาดว่าจะให้เปิดบริการนั่งที่ร้านได้ในเดือน มิ.ย. แต่ต้องเข้มงวดความสะอาดและรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างน้อยก็มีพิซซ่ากินกันแล้ว.