หน่วยงานที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกในตอนนี้คือองค์การอนามัยโลก (WHO) เพราะนอกจากต้องทำงานหนักเพื่อสู้กับโควิด-19 แล้ว ยังต้องเอาองค์กรให้รอดจากการเมืองระหว่างประเทศที่ใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือด้วย
กลางเดือนเมษายน 2563 นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศระงับการให้เงินสนับสนุนองค์การอนามัยโลก 90 วัน หลังจากออกมาด่าว่าองค์การอนามัยโลกทำงานพลาด ดันไปช่วยจีนปิดข้อมูลการแพร่ระบาดของโรค แถมยังเข้าข้างและเอาใจจีนมากไป ทั้งๆที่รับเงินสนับสนุนส่วนใหญ่จากสหรัฐฯ
ทรัมป์ยืนยันที่จะไม่ให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯเข้าร่วมโครงการผลิต พัฒนา และกระจายยา+วัคซีนต้านเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกของ WHO ด้วย
พ.ศ.2562 สหรัฐฯให้เงินสนับสนุนองค์การอนามัยโลก 450 ล้านดอลลาร์ จากงบประมาณทั้งหมด 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (1.92 แสนล้านบาท)
พ.ศ.2563 (มกราคม-มีนาคม) ประเทศที่ให้เงินสนับสนุนองค์การอนามัยโลกมากที่สุดก็ยังเป็นสหรัฐฯ 115.8 ล้านดอลล์หรือ 3,740 ล้านบาท ตามมาด้วยสาธารณรัฐประชาชนจีน 57.4 ล้านดอลล์ (1,850 ล้าน) ญี่ปุ่น 41 ล้านดอลล์ (1,317 ล้าน) เยอรมนี 29.1 ล้านดอลล์ (934 ล้าน) และสหราชอาณาจักร 21.9 ล้านดอลล์ (705 ล้าน)
ความที่ต้องใช้เงินมากถึง 6 พันล้านดอลล์ต่อปี องค์การอนามัยโลกจึงต้องง้อสหรัฐฯ นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก ต้องออกมากล่าวคำซาบซึ้งอย่างถึงที่สุดในความเมตตากรุณาอนุเคราะห์ของสหรัฐฯที่เคยช่วยเหลือเจือจุนองค์กร พร้อมทั้งขอร้องอ้อนวอนให้สหรัฐฯทบทวนการระงับเงินสนับสนุนที่ว่าและขอให้กลับมาสนับสนุนองค์การอนามัยโลกอีกครั้ง
ทันทีที่ทรัมป์ประกาศระงับงบสนับสนุนองค์การอนามัยโลก รัฐบาลจีนโดยนายเกิ่ง ส่วง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ก็ออกมาประกาศปั๊บว่าจะให้งบสนับสนุนองค์การอนามัยโลกเพิ่มอีก 30 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจากเงิน 20 ล้านดอลลาร์ที่จีนจะให้องค์การอนามัยโลกเพื่อพัฒนาระบบสาธารณสุขในประเทศกำลังพัฒนา และขอให้สหรัฐฯกลับมาสนับสนุนการต่อสู้กับโรคระบาดร่วมกับองค์การอนามัยโลกต่อไป
...
การตัดสินใจของทรัมป์อันตรายต่อโลกมากนะครับ หากองค์การอนามัยโลกมีเงินไม่พอ งานงอกแน่ องค์การฯจะรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้ยังไง เรื่องนี้จะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อระบบสาธารณสุขโลกได้
ไม่รู้ว่าภายใต้สมองของทรัมป์คิดอะไรอยู่ เพราะแม้องค์การอนามัยโลกจะตรวจสอบร่วมกับผู้เชี่ยวชาญมากมายหลายแขนงซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมทั้งฟันธงว่าเชื้อโควิด-19 นี้มีแหล่งที่มาจากธรรมชาติ และคาดว่ามาจากตลาดค้าสัตว์ป่าในเมืองอู่ฮั่นของจีน
ทรัมป์ไม่ยอมรับข้อสรุปขององค์การอนามัยโลก แกยืนยันว่า ต้นตอของโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลกนั้นมาจากสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ทรัมป์จะเอาผิดจีนเรื่องการระบาดของโควิด-19 ให้ได้ แต่พอซักไซ้ไล่เรียงรายละเอียด ทรัมป์กลับบอกว่า ‘บอกไม่ได้ เพราะไม่ได้รับอนุญาตให้บอกใคร’
ไม่แต่เฉพาะทรัมป์เท่านั้นที่พยายามทำให้จีนตกเป็นจำเลยในการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อวันพุธ 22 เมษายน 2563 นายเอริก ชมิดต์ อัยการสูงสุดรัฐมิสซูรี ประกาศเป็นหน่วยงานระดับชาติแห่งแรกในโลก ยื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ เรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลจีนที่เพิกเฉยต่อการระบาดจนทำให้โควิด-19 แพร่ขยายกระจายไปทั่ว ทำให้รัฐและประชาชนของรัฐมิสซูรีเสียหายทางเศรษฐกิจหลายหมื่นล้านดอลลาร์
แถมยังกล่าวหารัฐบาลจีนว่ากักตุนหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้ออื่นๆ ทำให้สถานการณ์ระบาดรุนแรงมากขึ้นด้วย
ผู้กุมบังเหียนองค์การอนามัยโลกคนปัจจุบันเป็นชาวเอธิโอเปีย ประเทศที่ไม่มีอำนาจต่อรองกับโลกตะวันตก ตอนขึ้นมาใหม่ๆ คนแอฟริกันก็เฮกันทั้งทวีป ตอนนี้เฮไม่ออก เพราะโดนทรัมป์แตะลูกฟุตบอลมาป้วนเปี้ยนอยู่ที่หน้าประตู
ทรัมป์ต้องการโยนความผิดพลาดของตัวเองไปที่องค์การอนามัยโลก เพื่อกระทบไปที่จีน ทรัมป์รู้ว่าภายใต้สมองของคนอเมริกันนั้นไม่ชอบคนจีน แข่งขันกับจีน ถ้าโยนขี้ไปให้ 1 องค์กรกับ 1 ประเทศนี้ได้ ทรัมป์ก็รอด.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com