ข่าว “โควิด-19” ยึดพื้นที่สื่อต่างๆทั่วโลกไปเกือบหมดตั้งแต่ต้นปีนี้ แต่ข่าวการหายตัวไปอย่างลึกลับของคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือก็โดดเด่นขึ้นมา เพราะชาวโลกสนใจกันมาก
ข่าวลือเกี่ยวกับคิม จอง-อึน เริ่มหนาหูเพราะเขาไม่ไปร่วมพิธีเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 100 ปีของคิม อิล-ซุง บิดาผู้ก่อตั้งประเทศผู้เป็นปู่ เมื่อ 15 เม.ย. ทั้งที่เป็นวันสำคัญที่สุดของชาติ หลังปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในที่ประชุมคณะกรรมการโปลิตบูโรของพรรคกรรมกรเมื่อ 11 เม.ย. เพื่อหาทางป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และแต่งตั้ง น.ส.คิม โย-จอง น้องสาว เป็นสมาชิกหมุนเวียนของโปลิตบูโร
จากนั้นเว็บไซต์ “เดลี เอ็นเค” ของกลุ่มผู้แปรพักตร์ชาวเกาหลีเหนือก็รายงานว่าคิม จอง-อึนเข้ารับการผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจเพราะสูบบุหรี่จัด เป็นโรคอ้วนและเหนื่อยล้า ส่วน “ซีเอ็นเอ็น” ก็รายงานว่าเขามีอันตรายร้ายแรงหลังผ่าตัด อาจป่วยหนัก เป็นมนุษย์ผัก หรือเสียชีวิตแล้ว
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเกาหลีใต้ยืนยันว่าคิม จอง-อึน ยังมีชีวิตอยู่สบายดี ไม่พบการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติใดๆในเกาหลีเหนือ การหายตัวไปไม่ใช่เรื่องแปลก รวมทั้งเดือน ม.ค.ปีนี้ เขาหายตัวไปอย่างน้อย 2 ครั้งเกือบ 20 วัน และปี 2557 ก็หายตัวไปเกือบ 6 สัปดาห์ ก่อนปรากฏตัวพร้อมไม้เท้าพยุงเดินหลังผ่าตัดซีสต์ที่ข้อเท้า
...
การหายตัวไปล่าสุด จึงเป็นไปได้ว่าคิม จอง-อึน แค่หนีโควิด-19 ไปอยู่ที่รีสอร์ตของผู้นำที่เมืองวอนซานทางภาคตะวันออก แม้เกาหลี เหนืออ้างว่ายังไม่มีผู้ติดเชื้อ สอดคล้องกับเว็บไซต์ “38 นอร์ท” ซึ่งสอดส่องความเป็นไปในเกาหลี เหนือที่เผยภาพถ่ายดาวเทียมขบวนรถไฟของคิม จอง-อึน ไปจอดที่เมืองวอนซานเมื่อ 21-23 เม.ย.
แต่ข่าวลือต่างๆคงไม่หมดไปตราบใดที่คิม จอง-อึน ยังไม่ปรากฏตัว ขณะที่มีคำถามอื่นๆตามมา โดยเฉพาะในเกาหลีใต้ที่ทะเลาะกันเรื่อง “การข่าวกรอง” ที่อ่อนแอ และผลกระทบถ้าคิม จอง-อึน เสียชีวิตจริงๆ
ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลเสรีนิยมของประธานาธิบดีมูน แจ-อิน ซึ่งมีนโยบายปรองดองกับเกาหลีเหนือ กล่าวโทษรัฐบาลอนุรักษนิยมชุดก่อนๆว่าใช้นโยบายแข็งกร้าวกับโสมแดง ทำให้ปัจจุบันไม่มีการแลกเปลี่ยนนักการทูต เจ้าหน้าที่รัฐบาล ผู้นำธุรกิจระดับสูง องค์กรบรรเทาทุกข์และอื่นๆ ซึ่งจะเป็น “แหล่งข่าวกรอง” ชั้นดี ทำให้รู้ความเป็นไปในเกาหลีเหนือลึกซึ้งและเชื่อถือได้กว่าที่เป็นอยู่
ส่วนฝ่ายอนุรักษนิยมกล่าวโทษรัฐบาลเสรีนิยมว่าลดเลิกปฏิบัติการ “จารกรรม” สอดแนมเกาหลีเหนือที่เคยเข้มข้นลงมากจนยากฟื้นคืน ทำให้ข่าวกรองอ่อนยวบแทบไม่รู้ความเป็นไปแน่ชัดของผู้นำเกาหลีเหนือเลย
เกาหลีเหนือเป็นชาติลึกลับ มีปริศนา และอ่านใจยากที่สุดในโลก ความเคลื่อนไหวของผู้นำถูกปิดเป็นความลับสุดยอด รู้กันเฉพาะในหมู่ผู้นำระดับสูงสุดไม่กี่คน ซึ่งปัจจุบันรวมทั้ง น.ส.คิม โย-จอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของคิม จอง-อึน ซึ่งพักหลังออกงานใหญ่กับพี่ชายตลอด จนคาดว่าจะเป็นทายาทอำนาจ
ผู้เชี่ยวชาญบางคนในเกาหลีใต้เตือนว่า แทนที่จะมัวแต่คาดเดาเรื่องสุขภาพของคิม จอง-อึน ควรจะ “มองข้ามช็อต” เตรียมรับสถานการณ์ถ้าสิ้นคิม จอง-อึนจะดีกว่า เพราะแม้เขามีวัยแค่ 36 ปี แต่เชื่อว่าสุขภาพย่ำแย่มีหลายโรครุมเร้า ทั้งโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น ยิ่งเสี่ยงเสียชีวิตสูงขึ้น
ถ้าคิม จอง-อึน สิ้นบุญ อาจเกิดการแย่งชิงอำนาจ และพวกผู้นำ “สายเหยี่ยว” หัวรุนแรงอาจขึ้นมามีอำนาจและควบคุม “อาวุธนิวเคลียร์” และคลังขีปนาวุธ ซึ่งอันตรายมาก ยิ่งถ้าเกาหลีเหนือล่มสลายอาจมีผู้ลี้ภัยทะลักเข้าเกาหลีใต้และจีนหลายล้านคน
...
ถึงขณะนี้ยังไม่มีใครกล้าชี้ชัดว่าใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำแทนคิม จอง-อึน แต่ผู้นำทั้ง 3 รุ่นที่ผ่านมา ล้วนสืบทอดอำนาจทางสายเลือด ดังนั้น น.ส.คิม โย–จอง น้องสาวจึงเป็นตัวเก็งแม้เป็นสตรี ส่วนลูกของคิม จอง-อึน ซึ่งเชื่อว่ามี 3 คนก็ยังเด็กเกินไป ด้าน คิม จอง–ชุล
พี่ชาย ก็อ่อนนุ่มนิ่ม ไม่สนใจการเมือง อีกคนคือ คิม พยอง–อิล วัย 66 ปี น้องชายต่างมารดาของคิม จอง-อิล ผู้นำรุ่นที่ 2 บิดาของคิม จอง-อึน แม้เคยเป็นนักการทูตในยุโรปแต่ไร้บารมี ขณะที่นายพลคิม ยอง-ชอล อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง มือขวาผู้ปูทางให้คิม จอง-อึน ประชุมสุดยอดกับโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แม้บารมีไม่น้อยแต่เป็นคนนอกตระกูล
ข่าวลือต่างๆเกี่ยวกับผู้นำโสมแดงต้อง “ฟังหูไว้หู” เพราะหลายครั้งที่ผิดพลาดไม่น่าเชื่อ เช่น “โชซุน อิลโบ” หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้พาดหัวข่าวในปี 2529 ว่า “คิม อิล–ซุง ตายแล้ว” แถมกองทัพเกาหลีใต้ก็แถลงยืนยัน หลังได้ยินเกาหลีเหนือประกาศหลอกผ่านลำโพงที่ริมพรมแดนว่าคิม อิล-ซุง สิ้นบุญแล้ว แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเขาก็ปรากฏตัวต้อนรับคณะทูตมองโกเลียที่สนามบินเปียงยาง
ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดของสื่อฯ และกองทัพเกาหลีใต้ครั้งนั้น ทำให้ชาวเกาหลีใต้ตื่นตระหนก เพราะกลัวผลกระทบที่ไม่คาดคิด รวมทั้ง “สงคราม” ที่อาจปะทุขึ้น!
บวร โทศรีแก้ว