สหรัฐฯ มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศมากกว่า 800,000 รายแล้ว นับว่าเพิ่มขึ้นเท่าตัวใน 2 สัปดาห์ แต่อัตราการติดเชื้อรายวันเริ่มชะลอตัวลงแล้ว

เว็บไซต์ ศูนย์ข้อมูลไวรัสโคโรนา ของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮ็อปกินส์ ระบุว่า ยอดสะสมของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา เพิ่มไปอยู่ที่ 810,561 รายแล้ว ในวันอังคารที่ 21 เม.ย. 2563 ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 43,630 ศพ แต่คาดว่าจะสูงขึ้นกว่านี้ เนื่องจากหลายรัฐยังไม่รายงานข้อมูลล่าสุดออกมา

ตามรายงานของ รอยเตอร์ส ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ทำให้จนถึงตอนนี้พวกเขาเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในโลก สูงกว่าอันดับ 2 อย่างสเปนเกือบ 4 เท่า ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกเพิ่มจนเกินกว่า 2.5 ล้านรายแล้วในวันอังคาร โดย 1 ใน 3 ของตัวเลขดังกล่าวอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

...

อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดชี้ให้เห็นว่า อัตราการติดเชื้อของสหรัฐฯ ลดลงในสัปดาห์นี้ โดยเพิ่มขึ้นไม่ถึง 30,000 รายต่อวัน มา 3 วันติดต่อกัน หลังจากทำสถิติสูงสุดมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 35,392 รายในวันเดียวเมื่อ 4 เม.ย.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพยายามหาทางผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิด-19 ซึ่งทำให้เศรษฐกิจของประเทศต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้ประชาชนในประเทศมากกว่า 22 ล้านคนต้องยื่นเรื่องขอรับสิทธิประโยชน์คนว่างงานในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายคนออกมาเดือนว่า จำเป็นต้องเพิ่มการตรวจโรคให้ได้มากกว่านี้ จึงจะสามารถผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ได้

ผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อ 20 เม.ย.
ผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อ 20 เม.ย.

อนึ่ง สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในโลก จนถึงตอนนี้พวกเขาทำการตรวจโรคไปแล้วถึง 4,035,860 ครั้ง หรือราว 1% ของจำนวนประชากรของประเทศซึ่งมีมากกว่า 330 ล้านคน

ในด้านผู้เสียชีวิต สหรัฐฯ ก็เป็นประเทศที่มีผู้เคราะห์ร้ายมากที่สุดในโลก แต่ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อัตราการเสียชีวิตเริ่มชะลอตัวลงแล้ว โดยเพิ่มวันละไม่ถึง 2,000 ศพ จากจุดพีคเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 2,806 ศพในวันเดียว โดยรัฐนิวยอร์กยังคงเป็นศูนย์กลางการระบาดของประเทศ มีผู้ติดเชื้อถึง 258,361 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 18,821 ศพ