นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียประเมินมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมว่า อาจต้องบังคับใช้นานถึง 1 ปี ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์พิจารณาแผนให้นักเรียนผลัดกันเรียน เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม
สำนักข่าวสเตรทไทม์ส สื่อสิงคโปร์ รายงานในวันนี้ (17 เม.ย.) ว่านายสก็อตต์ มอริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ทางการออสเตรเลียจะขยายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (social distancing) ไปอีก 4 สัปดาห์ พร้อมประเมินว่า มาตรการดังกล่าวอาจต้องถูกบังคับใช้นานหลายเดือน หรืออาจถึง 1 ปี ไปจนกว่าจะมีวัคซีนโควิด-19
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยังประเมินด้วยว่า การรักษาระยะห่างทางสังคม ที่แต่ละคนจะต้องอยู่ห่างกันอย่างน้อย 1.5 เมตร จะกลายเป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติใหม่ของมนุษย์
โดยในตอนนี้ มาตรการของรัฐบาลออสเตรเลียยังคงเข้มงวด โดยเฉพาะการสั่งให้ธุรกิจที่ไม่มีความจำเป็น รวมไปถึงร้านอาหารและบาร์ปิดให้บริการชั่วคราวเพื่อสกัดการแพร่ระบาด อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียสนับสนุนให้มีการเปิดโรงเรียนอีกครั้ง เนื่องจากมองว่า เด็กเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำที่จะติดโรคโควิด-19 ซึ่งแนวคิดนี้ถูกต่อต้านอย่างมากในหมู่ผู้ปกครอง รวมไปถึงรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐต่างๆ ที่มีอำนาจดูแลสถานศึกษาโดยตรง
โดยในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีประชากรมากที่สุด เริ่มมีแนวคิดให้นักเรียนผลัดกันมาโรงเรียน เพื่อลดความแออัดในห้องเรียน แต่ก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา เนื่องจากระยะเวลาการผลัดกันเรียนที่อาจนานถึง 1 ปี อาจเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
ก่อนหน้านี้มีผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐฯ ออกมาประเมินว่า สหรัฐฯ อาจต้องใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมไปอีก 2 ปี เนื่องจากมาตรการดังกล่าวมีส่วนช่วยลดภาระระบบสาธารณสุขในประเทศเป็นอย่างมาก และแม้ในอนาคตจะมีวัคซีนโรคโควิด-19 แล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญก็ยังเชื่อว่า การรักษาระยะห่างทางสังคมยังมีความจำเป็น
...