จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสเปนเพิ่มจนเกิน 15,000 ศพแล้ว แต่นายกรัฐมนตรีมั่นใจ ใกล้ควบคุมการระบาดของไวรัสมรณะตัวนี้ได้แล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สเปนมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 683 ศพในวันพฤหัสบดีที่ 9 เม.ย. 2563 ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 15,238 ศพแล้ว แต่ตัวเลขรายวันดังกล่าวลดลงจากเมื่อวันพุธที่พบ 757 ศพ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ชะลอตัวลงจากเมื่อวันพุธเล็กน้อย โดยยอดสะสมล่าสุดอยู่ที่ 152,446 ราย ในจำนวนนี้รักษาหายแล้วมากกว่า 50,000 คน
การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสเปนชะลอตัวลงจากเมื่อเดือนมีนาคมอย่างมาก จนรัฐบาลสเปนเชื่อว่าการระบาดในประเทศมาถึง จุดสูงสุด หรือ จุดพีค แล้ว แต่ยังเรียกร้องให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการห้ามออกจากบ้าน และเว้นระยะห่าง อย่างเคร่งครัด
...
“ไฟที่เกิดจากการระบาดเร่ิมที่จะอยู่ใต้การควบคุมแล้ว สงครามกับไวรัสตัวนี้จะเป็นชัยชนะอย่างสิ้นเชิงของเรา” นายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชส กลางรัฐสภาที่แทบจะว่างเปล่าเนื่องจากสมาชิกสภาเกือบทั้งหมดร่วมประชุมผ่านทางวิดีโอคอล “สิ่งที่สำคัญที่สุดของเราตอนนี้คือ อย่ากลับไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่ากลับไปยังจุดเริ่มต้นของเรา อย่าได้ประมาท”
นายซานเชซเผยด้วยว่า รัฐสภามีมติขยายคำสั่งภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศออกไปจนถึงวันที่ 26 เม.ย. ซึ่งจะทำให้ประชาชนต้องอยู่แต่ในบ้านต่อไปอีก 2 สัปดาห์แล้ว โดยนายซานเชซยืนยันว่า มาตรการควบคุมโควิด-19 ที่กำลังใช้อยู่ ช่วยลดอัตราการติดเชื้อรายวันลงจาก 22% เหลือเพียง 4% เท่านั้น และแม้จะยายเวลาล็อกดาวน์ออกไป รัฐบาลก็มีแผนจะค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการให้แก่ธุรกิจต่างๆ ที่ต้องปิดทำงานเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ก่อนด้วย