นายกเทศมนตรีเมืองในรัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐฯ สั่งตำรวจบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างในสังคมอย่างเข้มงวดเพื่อรับมือไวรัสโควิด-19 แต่ภรรยาของเขากลับแหกกฎและโดนจับเสียเอง

สำนักข่าว บีบีซี รายงานในวันที่ 8 เม.ย. 2563 ว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน นายแบรนต์ วอล์คเกอร์ นายกเทศมนตรีเมืองอัลตัน ในรัฐอิลลินอยส์ ของสหรัฐฯ ร้องขอประชาชนในเมืองของเขาไม่ให้ขัดคำสั่งของผู้ว่าการรัฐที่ให้ ‘อยู่แต่ที่บ้าน’ เพื่อหยุดการระบาดของไวรัสโควิด-19

“นี่เป็นช่วงเวลาที่อันตรายมากๆ และผมขอร้องพวกคุณ กรุณาอยู่กับบ้าน และพ่อแม่ได้โปรดให้ลูกๆ ของคุณอยู่ที่บ้าน การทำเช่นนี้สำคัญมากต่อสุขภาพของเรา” นายวอล์คเกอร์กล่าว และสั่งการให้ตำรวจเมืองอัลตันบังคับใช้มาตรการอย่างเข้มงวด โดยให้ออกใบสั่งหรือจับกุมผู้ที่ละเมิดคำสั่งเว้นระยะห่าง “เราจะทำทุกอย่างเพื่อลดการระบาดของไวรัสมรณะตัวนี้”

หลังจากนั้นในคืนวันเสาร์ที่ 4 เม.ย. สำนักงานตำรวจเมืองอัลตันปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขัน เข้าจัดการกับกลุ่มคนที่ละเมิดคำสั่งเว้นระยะห่างที่โรงเหล้าแห่งหนึ่ง และจับกุมผู้ละเมิดคำสั่งได้ทุกคน แต่ทว่า หนึ่งในนั้นกลับเป็นนางแชนนอน วอล์คเกอร์ ภรรยาของนายวอล์คเกอร์

ต่อมาในวันจันทร์ นายกเทศมนตรีเมืองอัลตันก็ออกแถลงการณ์ขอโทษต่อประชาชน โดยระบุว่า เขาได้รับแจ้งเรื่องนี้จากตำรวจในช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ เขาจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติกับภรรยาของเขาเหมือนกับผู้ที่ละเมิดคำสั่งให้อยู่แต่ที่บ้านทั่วไป และรับประกันว่าภรรยาของเขาจะไม่ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษเด็ดขาด

“ภรรยาของผมเป็นผู้ที่สามารถตัดสินใจเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเองได้แล้ว และในเหตุการณ์นี้ เธอแสดงให้เห็นการขาดวิจารณญาณอย่างน่าตกใจ” นายวอล์คเกอร์กล่าว “ผมรู้สึกอับอายจากเหตุการณ์นี้ และขอโทษชาวเมืองอัลตันทุกคน ที่เหตุการณ์นี้ทำให้เมืองของเราต้องอับอายไปด้วย”

...

ทั้งนี้ ผู้ที่ละเมิดคำสั่งอยู่แต่กับบ้านทุกคนจะถูกดำเนินคดีอาญาประเภทลหุโทษ ชั้น เอ (class A) ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุก 364 วัน, ปรับเงิน 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 81,795 บาท) หรือทั้งจำทั้งปรับ