หลายประเทศรวมทั้งแถบยุโรปเลือกล็อกดาวน์ปิดเมืองควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 มีประเทศหนึ่งที่ยอมให้คนใช้ชีวิตใกล้ปกติมากที่สุด ไม่มีตื่นหรือหวาดผวาพิษภัยไวรัสมรณะ

ประเทศที่ว่าคือสวีเดน...เปิดให้ทำธุรกิจและใช้แนวทางคุมการระบาดอ่อนมือกว่าเพื่อนยุโรปส่วนใหญ่

คนสวีเดนทั้งในและนอกกรุงสตอกโฮล์ม ออกมานั่งสูดอากาศ กินไอศกรีม พบปะสังสรรค์พูดคุยใกล้ชิด

นั่นเพราะคนสวีเดนรักกิจกรรมกลางแจ้ง... เอาต์ดอร์เป็นสรณะ

อยากฉลองวันที่อากาศอุ่นๆไม่หนาวมาก (ซึ่งหาได้ยาก)...มากกว่า

แม้เจ้าหน้าที่จะห้ามอยู่รวมกันเกิน 50 คน (ลดจาก 500 คน) เริ่มมีผลวันที่ 29 มี.ค.เป็นต้นไป

แต่โดยรวมภาครัฐออกคำแนะนำมากกว่ากฎระเบียบเข้มงวด

เน้นขอให้อยู่ที่บ้านถ้าคุณป่วยหรือเป็นคนสูงวัย ล้างมือ เลี่ยงเดินทางไม่จำเป็นและทำงานที่บ้าน

นายกรัฐมนตรี สเตฟาน ลอฟเฟน แถลงออกโทรทัศน์เมื่อเร็วๆนี้ บอกว่า “พวกเราผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ ต้องไม่แพร่ข่าวแตกตื่นหรือข่าวลือ ไม่มีใครโดดเดี่ยวในวิกฤตินี้ ทุกคนมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ (เหมือนกัน)”

พูดจบ!โพลสำนักหนึ่ง สำรวจพบคนสวีเดนชูมือเห็นด้วยคับประเทศ และส่วนใหญ่เชื่อมั่นเจ้าหน้าที่รัฐ

การรับมือแบบผู้ใหญ่ของรัฐยังได้เสียงเชียร์จากภาคธุรกิจ...หอการค้าสวีเดน บอกว่า “ภาคธุรกิจคิดว่าแนวทางการรับมือของรัฐบาลสวีเดน สมเหตุผลกว่าประเทศอื่นๆ”

สวีเดนยังมีปัจจัยหนุนสำคัญคือครัวเรือนในสวีเดนมากกว่าครึ่งหนึ่ง มีสมาชิกในบ้านแค่ 1 คน ช่วยตัดโอกาสเสี่ยงเกิดระบาดภายในครอบครัว... เหมือนที่เกิดในหลายประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง

คนไม่เห็นด้วยและอยากให้รัฐชัดเจนก็มี อยากรู้หลักปฏิบัติในที่สาธารณะ ต้องเว้นระยะห่าง Social distancing เหมือนที่อื่นๆหรือไม่

...

มาลุ้นกันว่าท้ายที่สุดแล้วการรับมือไวรัสมรณะแบบสวีเดนจะออกหัวหรือก้อย.

เกรียงศักดิ์ จุนโนนยางค์