หลังจากได้รับอนุญาตจากทางการจีนให้เปิดดำเนินการได้เมื่อ 15 มีนาคม 2563 ภัตตาคารเฟ่ยไท่ชานก็เริ่มกลับมามีลูกค้าเต็มทุกโต๊ะอีกครั้งเมื่อวันเสาร์ที่ 21 มีนาคม 2563

มีคนถามว่า ปิดประเทศยาวนาน แต่ทำไมเศรษฐกิจของจีนไม่ล่มสลาย ขอเรียนว่าในห้วงหลายสิบปีที่ผ่านมา จีนสะสม ทุนไว้เป็นจำนวนมาก เมื่อมีปัญหา จีนก็ยอมทุ่มงบประมาณมหาศาลลงมาเยียวยาประชาชน เขียนให้เข้าใจง่ายก็คือ ถ้าประเทศเป็นบริษัท จีนก็เป็นบริษัทใหญ่ สะสมทุนและกำไรเอาไว้เยอะ เป็นบริษัทที่สายป่านยาว แม้ไม่มีเงินเข้าสักหนึ่งปี บริษัทก็ยังมีเงินเดือนจ่ายพนักงานและมีเงินทุนหมุนเวียน

20 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนมีวิสัยทัศน์ส่งเสริมวิสาหกิจจีนทั้งของรัฐและของเอกชนให้ไปลงหลักปักฐานทำธุรกิจในทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนในเรื่องของการกระจายความเสี่ยง เป็นเรื่องเดียวกันกับเมื่อตอนที่ภัตตาคารเฟ่ยไท่ชานถูกปิด พ่อก็ไม่ได้ให้พนักงานคนใดออก ยังจ่ายเงินเดือนตามนโยบายรัฐบาลจีน โดยเจียดรายได้จากไทยส่งไปช่วย

วันนี้ ภัตตาคารเฟ่ยไท่ชานที่กุ้ยหลินเปิดให้บริการ ส่วนกิจการในเมืองไทยปิด เราก็เจียดเงินจากเมืองจีนส่งมาช่วยกิจการในไทย ใช้หลักการกระจายความเสี่ยงนี่ละครับ จีนหรือธุรกิจขนาดเล็กอย่างเฟ่ยไท่ชานจึงเอาตัวรอด ไม่ลำบากเหมือนกับอิตาลี ซึ่งตอนนี้มีผู้คนเริ่มวิ่งหยิบฉวยอาหารจากซุปเปอร์มาร์เกตโดยไม่จ่ายเงิน ปากก็ตะโกนก้องร้องว่า คนจำเป็นต้องกินอาหาร

หรือแม้แต่ที่เยอรมนี นายโทมัส แชเฟอร์ อายุ 54 ปี รัฐมนตรีคลังของรัฐเฮสเซินซึ่งเป็นที่ตั้งของนครแฟรงก์เฟิร์ต ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดใส่ทางรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งระหว่างนครแฟรงก์เฟิร์ตและเมืองไมนส์ รัฐมนตรีคลังแชเฟอร์เครียดกับการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเยอรมนี ซึ่งขณะที่ผมกดแป้นคอมพิวเตอร์รับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพอยู่นี่ เยอรมนีมีผู้ติดเชื้อ 62,435 คน และมีคนเสียชีวิต 541 คนแล้วครับ

...

ประเทศที่ปิดตัวเองและไม่น่าจะไปรอดก็มักจะเป็นประเทศเล็กชาติน้อยที่หาเช้ากินค่ำ ไม่ได้สะสมทุน มีเงินเข้าประเทศเพียงปีละเล็กน้อยกระจิริดกระจ้อยร่อย ก็เอาไปดาวน์ฝูงบิน รถถัง เฮลิคอปเตอร์ เรือรบ เรือดำน้ำ รถประจำตำแหน่ง และเครื่องอำนวยความสะดวกทั้งหลายให้ผู้ใหญ่ในกองทัพและรัฐบาล ซึ่งตั้งแต่ซื้อมา อาวุธเหล่านี้ไม่เคยใช้ยิงศัตรูเลยแม้แต่นัดเดียว

มุมมองของคนต่างกันครับ ผู้บริหารบางคนมองเฉพาะมิติความมั่นคงทางกายภาพ แต่ไม่สนใจไยดีในมิติความมั่นคงทางสังคม โดยเฉพาะด้านการสาธารณสุข กลุ่มผู้บริหารชาติพวกนี้เป็นโรคกลุ่มอาการที่ถดถอยทางความคิด ความจำ และระดับสติปัญญา เป็นพวกสับสนเรื่องเวลาที่ยังคิดว่า ประเทศของเรายังต้องเตรียมการไว้ป้องกันการโจมตีของกองกำลังเฮงสัมริน

การปิดประเทศอย่างไม่เต็มรูปแบบของไทยส่งผลให้ธุรกิจน้อยใหญ่แย่ไปตามๆกัน นี่แค่ปิดเพียงไม่กี่วัน ผู้อ่านท่านลองหลับตาจินตนาการถึงเหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าถ้าเราต้องปิดอยู่นานหลายเดือนหรืออาจจะถึงปี ประชาชนคนไทยจะเป็นยังไง อยากจะเห็นแผนการที่เป็นรูปธรรมจากรัฐบาลไทยที่จะช่วยธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางซึ่งเป็นหน่วยสร้างเงินและกระจายความมั่งคั่งไปทั้งประเทศ เหมือนอย่างที่เราได้ยินได้ฟังแผนการของรัฐบาลจีน

แม้แต่ฝรั่งเศสที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อ 40,174 คน และตายไปแล้ว 2,606 คน รัฐบาลของนายมาครงประกาศงดเก็บค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า สำหรับธุรกิจขนาดเล็กด้วยงบประมาณ 10.6 ล้านล้านบาท อย่างนี้ธุรกิจรายเล็กรายย่อยก็อยู่ในบ้านได้ซีครับ

วันหน้า ผมจะนำมาตรการเยียวยาและความช่วยเหลือของรัฐบาลไทยมารับใช้กันบ้างครับ จะได้เกิดความมั่นใจกันถ้วนหน้า.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com