Credit : NASA
มีแนวคิดมากมายเกี่ยวกับดาวเคราะห์ยักษ์ที่เคยอยู่ในระบบสุริยะและไม่ได้มีอยู่อีกต่อไป หรือดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลและมีขนาดมหึมาแต่สลัวเลือนเกินกว่าที่จะสังเกตเห็นได้ เมื่อเร็วๆนี้ ทีมนักฟิสิกส์และนักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ในสหรัฐอเมริกา รายงานการใช้ข้อมูลจากโครงการสำรวจพลังงานมืด (Dark Energy Survey–DES) ทำให้ค้นพบวัตถุพ้นดาวเนปจูน (Trans–Neptunian Object–TNO) มากกว่า 300 ดวงหรือเรียกว่าเป็นดาวเคราะห์น้อยนั่นเอง
จริงๆแล้วเป้าหมายของ DES ก็คือการศึกษากาแล็กซีและซุปเปอร์โนวา รวมถึงทำความเข้าใจธรรมชาติของพลังงานมืด โดยรวบรวมภาพที่มีความแม่นยำสูงของท้องฟ้าซีกใต้ แต่ถึง DES จะไม่ได้ออกแบบมาโดยตรงสำหรับการค้นหาวัตถุพ้นดาวเนปจูน ทว่าการสำรวจของโครงการนี้ที่มีความลึกซึ้งกลับทำให้สามารถค้นหาวัตถุพ้นดาวเนปจูนดวงใหม่ๆ อีกทั้งเมื่อใช้ความถี่ในการวัดบ่อยๆ ทุกๆชั่วโมงหรือ 2 ชั่วโมง ก็ช่วยให้นักดาราศาสตร์สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของวัตถุพ้นดาวเนปจูนได้ง่ายขึ้น
หลังจากหลายเดือนของการพัฒนาวิธีการและการวิเคราะห์ ทีมนักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวเคราะห์น้อยอีก 139 ดวง ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ดาวเหล่านี้โคจรอยู่เหนือวงโคจรของดาวเนปจูน ตรงพื้นที่ที่มืดสนิทและเย็นเยือก ซึ่งการศึกษาวงโคจรของบรรดาวัตถุพ้นดาวเนปจูนดังกล่าว อาจทำให้เข้าใกล้กับการค้นพบดาวเคราะห์เก้า (Planet Nine) คือดาวเคราะห์ปริศนาที่เชื่อว่าซ่อนตัวอยู่รอบนอกระบบสุริยะของเรา.