ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดที่ผันผวนตลอดทั้งวันโดยเพิ่มขึ้นอย่างมากในวันอังคาร จากความคาดหมายเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ในวันอังคารที่ 10 มี.ค. 2563 ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ บวกเพิ่ม 1,167.14 จุด หรือ 4.89$ ปิดตลาดที่ 25,018.16 จุด หลังจากเมื่อวันจันทร์ดาวโจนส์เพิ่งเผชิญวันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติการเงินปี 2561 หรือมากกว่า 11 ปีที่แล้ว เนื่องจากซาอุดีอาระเบียประกาศเพิ่มการผลิตน้ำมัน ทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า 20%

ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ก็เพิ่มขึ้นถึง 135.67 จุด (4.94%) ปิดที่ 2,882.23 จุด ขณะที่ดัชนีแนสแด็กบวกเพิ่ม 393.58 จุด (4.95%) ปิดที่ 8,344.25 จุด

นายแพทริค โอแฮร์ นักวิเคราะห์ของ Briefing.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านการค้าและการลงทุนกล่าวว่า ความไม่แน่นอนจะยังคงอยู่ต่อไป เนื่องจากยังไม่แน่ชัดว่าไวรัสโควิด-19 จะแพร่กระจายในสหรัฐฯ มากขนาดไหน ซึ่งยิ่งนานจะยิ่งส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดหมายว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่รายละเอียดยังไม่ชัดเจน

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเที่ยงวันอังคาร (ตามเวลาสหรัฐฯ) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงที่ทำเนียบขาวว่า เขาวางแผนจะให้ความช่วยเหลือสายการบิน และบริษัทเรือสำราญต่างๆ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด ขณะที่มีรายงานด้วยว่า นายทรัมป์กำลังพิจารณาระงับภาษีเงินเดิน สำหรับแรงงาน และช่วยเหลือผู้ผลิตปิโตรเลียม ที่กำลังลำบากเพราะราคาน้ำมันตกต่ำด้วย

...

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นกลับขึ้นมาคือราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร ทำให้หุ้นบริษัทผู้ผลิตปิโตรเลียมรายใหญ่อย่าง ‘เอ็กซอน โมบิล’ และ ‘เชฟรอน’ เพิ่มขึ้น 2.7% และ 5.3% ตามลำดับ ขณะที่บริษัทน้ำมันขนาดกลางอย่าง ‘อ็อคซิเดนทัล ปิโตรเลียม’ ดีดตัวขึ้นถึง 14.5%