ส.ว.สหรัฐฯ อนุมัติแพ็กเกจมูลค่าหลายแสนล้านบาท เพื่อต่อสู้กับไวรัสโควิดในประเทศแล้ว หลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 205 ราย
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 มี.ค. 2563 สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงคะแนนเสียงท่วมท้น 96 ต่อ 1 เสียง อนุมัติร่างกฎหมายจัดงบประมาณ 8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2.6 แสนล้านบาท เพื่อต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ที่ล่าสุดทำให้มีผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ แล้วถึง 205 ราย และเสียชีวิตอีก 12 คน
งบประมาณดังกล่าวแบ่งเป็นเงินจำนวน 7.8 พันล้านดอลลาร์เพื่อแก้ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ขณะที่อีก 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนโครงการความช่วยเหลือด้านสุขภาพผ่านการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ (telehealth) เพื่อช่วยคนชราให้เข้าถึงบริการด้านสุขภาพง่ายขึ้น
ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรอย่างง่ายดายเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และตอนนี้เหลือขั้นตอนสุดท้ายคือส่งให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามบังคับใช้

ทั้งนี้ การผ่านกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 205 รายแล้ว โดยที่ 49 รายเป็นผู้ที่อพยพมาจากจีนและเรือไดมอนด์ ปริ๊นเซส ส่วนอีก 156 คนถูกพบใน 17 รัฐทั่วประเทศ แต่ที่พบมากที่สุดคือรัฐวอชิงตัน จำนวน 70 ราย และเสียชีวิตถึง 11 ราย
อย่างไรก็ตาม เกิดสถานการณ์น่ากังวลขึ้นที่รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยทางการประกาศภาวะฉุกเฉินหลังจากพบว่า ผู้เสียชีวิตที่พบเป็นรายแรกของรัฐ ติดเชื้อขณะโดยสารเรือสำราญ ‘แกรนด์ ปริ๊นเซส’ ที่เดินทางจากซานฟรานซิสโกไปเม็กซิโกเมื่อเดือนก่อน โดยผู้ตายลงจากเรือพร้อมกับผู้โดยสารอีกหลายพันคนที่เมืองซานฟรานซิสโกในวันที่ 21 ก.พ. และมีผู้โดยสารชุดใหม่อีกหลายพันคนขึ้นเรือลำนี้ เพื่อเดินทางไปยังเกาะฮาวาย
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้มีความเสี่ยงที่เรือลำนี้จะซ้ำรอยชะตากรรมของเรือ ไดมอนด์ ปริ๊นเซส ที่พบผู้ติดเชื้อบนเรือมากกว่า 700 คน ซึ่งหน่วยยามฝั่งของสหรัฐฯ จะจัดส่งชุดตรวจโรคไปยังเรือลำนี้ด้วยเฮลิคอปเตอร์ และให้แพทย์ประจำเรือตรวจผู้โดยสารต่อไป