จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอิตาลีเพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 50% เป็น 1,694 รายแล้ว ขณะที่โดมินิกันกับเช็กพบผู้ติดเชื้อรายแรก โดยทั้งหมดเกี่ยวข้องกับอิตาลี

สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สำนักงานคุ้มครองพลเรือนแห่งประเทศอิตาลีเปิดเผยในวันอาทิตย์ที่ 1 มี.ค. 2563 ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ หรือ โควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบ 50% เป็น 1,694 ราย ภายในเวลา 24 ชั่วโมง ขณะที่มีผู้เสียชีวิตอีก 5 คน ทำให้ยอดผู้เคราะห์ร้ายเพิ่มเป็น 34 รายแล้ว

อิตาลีเป็นประเทศที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 รุนแรงที่สุดในยุโรป โดยเฉพาะในภูมิภาคลอมบาร์ดี และเวเนโต ทางเหนือของประเทศ ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นายกรัฐมนตรีอิตาลี ออกคำสั่งปิดโรงละครโอเปรา ‘ลา สกาลา’ ในเมืองมิลานไปจนถึง 8 มี.ค. ด้วย

ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขของสาธารณรัฐโดมินิกันยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสมรณะชนิดนี้รายแรกของประเทศแล้ว โดยเป็นชายชาวอิตาลีที่เดินทางเข้ามาตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. และไม่แสดงอาการป่วยใดๆ โดยตอนนี้เขาถูกแยกเดี่ยวอยู่ที่ห้องในโรงพยาบาลทหาร ‘รามอน เดอ ลารา’

ส่วนสาธารณรัฐเช็กก็ออกมายืนยันการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกเช่นกัน โดยนายอดัม วอชเทค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีผู้ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ 3 รายรวมถึงนักศึกษาชาวอเมริกันที่เรียนอยู่ในเมืองมิลาน ของอิตาลี ซึ่งเดินทางมาท่องเที่ยวในเช็ก และทั้ง 3 คนมีประวัติเดินทางไปภาคเหนือของอิตาลีมาก่อนด้วย

อนึ่ง มีรายงานว่า สายการบิน เดลต้า แอร์ไลน์ส สั่งระงับเที่ยวบินระหว่างสหรัฐฯ กับเมืองมิลาน ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคลอมบาร์ดีแล้ว ตามคำแนะนำของกระทรวงต่างประเทศ จากความกังวลเรื่องไวรัสโคโรนา โดยเที่ยวบินสุดท้ายจะเกิดขึ้นในวันที่ 3 มี.ค. และพวกเขามีแผนจะกลับมาให้บริการอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ค.

...